Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

วินาทีสุดท้ายของ ป.อินทรปาลิต





ที่มา: โลกหนังสือ ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 พฤษจิกายน พ.ศ.2525
โดย: ปริญญา อินทรปาลิต
  ได้รับอนุญาตให้ตีพิมพ์บน Internet เพื่อการศึกษา
พิมพ์โดย: Webmaster สมาชิกหมายเลข 00001


ป. อินทรปาลิต ก่อนถึงวาระสุดท้ายถ่ายที่โรงพยาบาล

วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2511 ใครเลยจะนึกว่าจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต "คุณปู่" ของผม ป. อินทรปาลิต

ผมเองก็ไม่ได้คิด และตัวคุณปู่เองก็ไม่ได้คิด เรายังคุยกันอยู่ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่นาที ปู่บอกผมว่า

"เป็ดเอ๊ย...ตอนนี้แกก็พิมพ์หนังสือคล่องแล้ว ถ้าไม่มีปู่ ปู่จะให้แกได้รับงานทั้งหมดที่ปู่ทำมา"

ผมรู้สึกวูบขึ้นมา รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังการพูดนั้น และผมยังคิดต่อไปว่า อย่างผมน่ะหรือจะรับงานการประพันธ์ต่อจากปู่ได้ ผมก็เลยได้แต่หัวเราะ วันนี้เราไม่ได้พิมพ์หนังสือ เพราะ "ลาก่อนอัพภันพนา" ผมเพิ่งจะพิมพ์ให้ปู่เสร็จเมื่อวานนี้ และตอนที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ ย่ากำลังนำต้นฉบับนั้นไปส่งจากการพิมพ์ตามคำบอกของปู่ ผมคิดว่า "ลาก่อนอัพภันพนา" เป็นเหมือนการบอกลาของปู่อย่างแท้จริง ผมพิมพ์ไปด้วยใจที่หดหู่ ทั้งๆ ที่ปู่พยายามจะให้ความรู้สึกที่เป็นอารมณ์ขัน แต่ผมอ่านแล้วหัวเราะไม่ออก ปู่ไม่เคยกินเหล้าแม้แต่หยดเดียว ผู่แกล้งคุยว่าปู่เป็นคนขี้เหล้า ผมก็รู้ว่าที่ปู่คุยเช่นนั้นก็เพราะปู่อยากจะให้เห็นว่าเป็นของขบขัน ทั้งที่ปู่เองก็ไม่เห็นขัน ที่เขียนไปนั่นก็ด้วยวิญญาณนักเขียนที่สิงอยู่ในใจของปู่เอง ปู่เขียนจนเป็นอัตโนมัติ ขำไม่ขำก็เขียนได้ ทั้งที่เวลาปู่กำลังร้องไห้ ก็ยังนึกถึงความรื่นรมย์ที่ผู้อ่านจะได้รับจากการเขียนของปู่ ...นี่แหละคือธาตุแท้ของปู่...ที่ปู่อยากจะให้ผมได้รับการถ่ายทอด ผมก็ได้แต่หัวเราะ เป็นการสนองความต้องการของปู่ ซึ่งผมคิดว่าดีกว่าผมไม่ได้ให้อะไรเสียเลย

วันนั้นปู่นอนซมมาตั้งแต่ตอนเช้า ผมก็ได้แต่คอยนั่งมองอยู่ใกล้ๆ จนกระทั่งตอนเย็น คุณชูชัย พระขรรค์ชัย ก็ได้เข้ามาในห้องและถามปู่ว่า

"พี่ ป. หลับหรือเปล่า"

ปู่ผงกหัวขึ้นพร้อมกับยันกายลุกขึ้นนั่ง และพูดว่า

"พี่ไม่หลับหรอก พี่นอนเล่นเฉยๆ"

คุณชูชัยก็กล่าวถามต่อว่า

"วันนี้พี่รู้สึกอย่างไรบ้าง"

ปู่ตอบด้วยท่าทางอิดโรยว่า "วันนี้รู้สึกเพลีย พี่เลยต้องนอนทั้งวัน"

"เอาน้ำผึ้งกับโสมไหม เผื่อจะได้หายเพลีย" คุณชูชัยบอก

ปู่บอกว่า "เอาไว้หลังอาหารเย็นก็แล้วกัน กินพร้อมกับยา"

คุณชูชัยก็ไม่พูดว่ากระไรอีก แกคงคิดว่าเป็นการกวนใจปู่ แกยืนอยู่สักครู่หนึ่งแล้วก็เดินออกจากห้องไป แต่พอออกไปแล้วก็ย้อนเข้ามาใหม่ บอกกับผมว่า

"เป็ด---ช่วยเอายาหม่องนวดให้ปู่หน่อยซิ นั่งอยู่เฉยๆ ทำไม"

ผมก็เห็นด้วยว่าควรจะทำอะไรให้ปู่สักอย่าง ก็เอื้อมมือหยิบยาหม่องมาถูนวดให้ปู่ตามแขนขาและเท้า สักครู่หนึ่งปู่ก็บอกให้ผมพอ ผมก็คิดว่าปู่ควรจะนอนพักผ่อนได้แล้ว ผมก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับคุณชูชัย ผมเลยไปล้างมือในห้องน้ำ ตอนนั้นคุณชูชัยเพิ่งกลับจากธุระ แกขึ้นไปข้างบนเพื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว หลังจากนั้น ผมก็เห็นคุณชูชัยลงไปทางหลังบ้านเพื่อออกกำลังตามปกติ

สักครู่หนึ่งต่อมา ในความรู้สึกของผมได้เกิดรู้สึกประหลาดขึ้นมาชนิดหนึ่ง คือรู้สึกว่าโลกทั้งโลกนี้ได้เงียบสงัดลงฉับพลัน เงียบสนิท! เงียบจนกระทั่งผมรู้สึกวังเวงเข้าไปจับใจ และชั่วพริบตานั้น ฟ้าได้ร้องคำรามสนั่นครั่นครื้น! พร้อมกับพายุพัดสนั่นหวั่นไหว! ต่อจากนั้นฝนได้ตกลงมาอย่างปัจจุบันทันที ตกอย่างหนักจนผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

แต่น่าประหลาดอย่างยิ่งทั้งๆ ที่ผมอยู่คนละห้อง ผมได้ยินเสียงปู่ส่งเสียงเหมือนคนกำลังจะอาเจียน ผมนึกว่าปู่คงจะอาเจียนเหมือนอย่างเคย จึงรีบวิ่งเข้ามาในห้อง จริงอย่างที่ผมคิด ผมรีบหยิบกระโถนยื่นไปที่หน้าของปู่พร้อมกันนั้นปู่ก็ได้อาเจียนออกมานิดหน่อย เป็นน้ำสีเหลืองๆ

ตอนนั้นผมสังเกตเห็นหน้าปู่ซีดจนผิดปกติ ซีดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ตรงกันข้ามดวงตาของปู่สุกใสเป็นประกายแวววาว ผมเห็นดวงตาของปู่ก็นึกสบายใจ เพราะเป็นแววตาของคนที่แข็งแรงสมบูรณ์และเต็มไปด้วยพลังใจ ปู่อาเจียนเสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม ผมรู้สึกคล้ายๆ ว่าปู่ยิ้มออกมานิดหนึ่ง ผมก็ยิ้มรับด้วยความแปลกใจ

จากนั้นปู่ก็เอนตัวลงนอน ใครจะนึกว่าการนอนของปู่ครั้งนี้จะเป็นการนอนที่ไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย

ผมเอากระโถนไปเท แล้วต้องสะดุ้งสุดตัวทิ้งกระโถนลงไป เพราะได้ยินเสียงของย่าและแม่ร้องระงมขึ้นมากับสายฝน ผมรีบวิ่งมาในห้องและเห็นปู่นอนนิ่งเงียบ เงียบสนิทจริงๆ เงียบชนิดที่ผมไม่เคยเห็นการนอนอย่างนี้มาก่อน

ด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่งได้บอกให้ผมรู้ว่า ผมได้สูญเสียอะไรไปแล้ว ผมเย็นวาบไปทั้งตัว ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น

ต่อจากนั้นใครต่อใครก็ช่วยกันเข้ากลุ้มรุมผายปอดและนวดหัวใจให้ปู่ ด้วยความหวังที่เต็มไปด้วยน้ำตา แต่มัจจุราชไม่เคยปราณีใคร

ปู่ได้จากทุกคนไปพร้อมกับเสียงฝนที่เงียบสนิทไปแล้ว ยังคงอยู่แต่เสียงร่ำไห้อาลัยรัก



* พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ "อนุสรณ์ ป. อินทรปาลิต" ที่ระลึกในงานประชุมเพลิง นายปรีชา อินทรปาลิต ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2512





All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.