Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

เฮฮากับสามเกลอ



J17: จากตอน "แสงมหาพินาศ" สำนักพิมพ์บรรณกิจ
ช่วยขบร่วมขันโดย: คุณ Pee_man (00334)
คำนำ: เรื่องนี้ก็เป็นพล็อตเรื่องที่คุณ ป.เขียนบ่อยๆ นะครับก็ประมาณว่ามีข้าศึกมารุกรานประเทศไทย ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าเป็นชาติไหน แต่ก็แสดงให้เห็นว่า คุณป. รักประเทศชาติมากสมกับที่เป็นนักเรียนนายร้อยเก่า มุขตลกตอนนี้เป็นส่วนที่ผมชอบมาก ตัวเรื่องอาจจะคล้ายเดิม แต่คุณป.มักจะแฝงมุขในแต่ละตอนไม่ซ้ำกันเลยครับ นี่ก็เป็นตอนหนึ่ง
เกริ่นเรื่อง: เป็นเรื่องที่มีข้าศึกจากต่างประเทศเข้ามาบุกรุกประเทศไทย สภาป้องกันราชอาณาจักรก็ได้เรียกประชุมด่วนซึ่งก็รวมถึงสี่สหายและเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ด้วย มุขตลกจะอยู่ในช่วงประชุมนะครับ แล้วดร.ดิเรกก็รับอาสาทำลายเครื่องบินข้าศึกให้โดยอุปกรณ์พิเศษก็คือแสงมหาพินาศอันนี้ ก็ลงทุนเพียงไม่กี่ร้อยบาท ก็ได้ผลสำเร็จทำให้ข้าศึกส่งคนลอบเข้ามาจับตัวไป ซึ่งก็จับดร.ดิเรกกับนิกรไปได้ แต่ในที่สุดดร.ดิเรกก็กินยาหายตัว หลบหนีและทำลายศัตรูได้ในที่สุด


.....ภายในห้องประชุมอันเคร่งเครียด คณะกรรมการของสภา ฯ ประมาณ ๔๐ ท่านกำลังนิ่งฟังท่านประธานชี้แจงให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"....................เป็นอันเชื่อได้ว่า ในอนาคตใกล้นี้ประเทศไทยจะต้องถูกข้าศึกใช้กำลังมากมายมหาศาลรุกรานเราอย่างไม่ต้องสงสัย" ท่านเจ้าคุณตลุมบอนอริพ่าย ประธานกรรมการกล่าวขึ้นด้วยเสียงกังวาน "บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมมือกัน ป้องกันประเทศชาติที่รักของเราให้พ้นภัยจากราชศัตรู"

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ แล้วนิกรทำจมูกยู่ยี่จามขึ้นดัง ๆ ลุกขึ้นยืนแถลงต่อที่ประชุม

"ข้าแต่ท่านประธานและคณะกรรมการตลอดจนสมาชิกทั้งหลาย ข้าพเจ้าเห็นว่าพวกเราทุกคนที่ถูกเชิญมาประชุมในวันนี้ ไม่มีเวลาเตรียมตัวที่จะกล่าวความคิดเห็นหรือให้คำแนะนำเป็นสาระระโยชน์แก่สภานี้ได้ ข้าพเจ้าเห็นสมควรว่าควรยุติการประชุมเพียงเท่านี้"

"แล้วกัน..........." ท่านประธานพูดขึ้นดัง ๆ "พอผมเริ่มเปิดประชุม ยังไม่ทันจะรู้เรื่องอะไรกันดี คุณก็เสนอให้ปิดการประชุมเสียแล้ว"

นายจอมทะเล้นหัวเราะ ก้มศีรษะคำนับท่านประธาน

"ข้าพเจ้าหมายความว่าให้นัดประชุมกันใหม่ในตอนหัวค่ำวันนี้ ส่วนที่ประชุมจะเป็นโรงแรมรัตนโกสินทร์หรือห้อยเทียนเหลาหรือสามแยกใหม่ยังได้ ขอให้มีการเลี้ยงโต๊ะจีนกันเสียก่อนตามระเบียบ หลังจากนั้นเราก็จะได้ปรึกษาหารือกันต่อไป"

ท่านประธานชักฉิว

"รู้สึกว่าท่านแก่กินมากไปหน่อย......"

"ครับ" นิกรรับสารภาพ "มนุษย์เราทุกคนยังชีวิตได้ก็ด้วยการกินและการนอนเท่านั้น การประชุมที่ดีต้องมีการกินเลี้ยงด้วย"

คณะกรรมการต่าง ถกเถียง วิพากษ์ วิจารณ์ กันอย่างหน้าดำหน้าแดง เสียงข้างมากเห็นสมควรว่าควรจะมีการเลี้ยงโต๊ะจีนและประชุมตามความเห็นของนิกรกรรมการผู้มีเกียรติ

ท่านประธานยกกำปั้นทุบโต๊ะค่อนข้างแรง

"ประเทศชาติของเรากำลังจะพินาศอยู่แล้ว ยังจะเห็นแก่กินอยู่อีกหรือ แล้วก็ท่านทั้งหลายทราบหรือเปล่าว่าเท่าที่เรามีการเลี้ยงโต๊ะจีนกันบ่อย ๆ นั้น ข้าพเจ้ายังไม่สามารถจะหาเงินมาชำระค่าอาหารที่เลี้ยงกันได้ ข้าพเจ้าตั้งใบเบิกไปทางรัฐบาล กระทรวงการคลังก็ขัดข้อง เจ๊กที่ภัตตาคารมันก็มาทวงแทบทุกวัน เก่ายังไม่ได้ใช้ จะไปกินของเขาอีก ใครเขาจะไปยอม"

นิกรว่า "อย่างนี้มันต้องเห็นแก่ชาติครับ ถ้าประเทศไทยถูกรุกราน พวกชาวจีนก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ผมจะลองติดต่อเขาเอง เพื่อให้ภัตตาคารเปิดเครดิตให้เรา"

ท่านนายพลผู้สูงอายุคนหนึ่งมองดูนิกรอย่างชื่นชม

"ความจริงเป็ดย่างไฟแดงที่ใต้เตี๊ยะ ไม่เลวนาคุณนิกร"

ท่านนายพลร่างอ้วนใหญ่อีกคนหนึ่งพูดเสริมขึ้น

"ผมว่าไข่นกพิราบตุ๋นที่สามแยกใหม่ก็ไม่เลวเหมือนกัน"

ดร. ดิเรก หัวเราะก้าก

"ออไร๋น์- ออไร๋น์ ถ้าจะให้ดีแล้วผมคิดว่าเราควรนัดกันเปิดประชุมกันที่ภัตตาคารชาวอินเดียหลังศาลาเฉลิมกรุงเป็นดีแน่ ผมอยากจะให้ท่านกรรมการผู้มีเกียรติเหล่านี้ลองรับประทานอาหารแขกกันบ้าง ผมเชื่อเหลือเกินว่าแม้แต่ท่านประธานกรรมการก็คงจะชอบใจ"

เจ้าคุณตลุมบอน ฯ ประธานกรรมการโมโหจนปากสั่น ส่งเสียงตวาดลั่นห้อง

"ผมไม่กิน"

นาบแพทย์หนุ่มก้มศีรษะเล็กน้อย

"อาหารแขกอาจจะไม่ถูกปากใต้เท้า หรือบางทีใต้เท้าไม่เคยรับประธานก็คิดว่าไม่อร่อย แต่ที่ไหนได้อาหารแขกย่อมให้แคลลอรี่แก่ร่างกายอย่างมากมาย ล้วนแต่มีคุณประโยชน์ เป็นต้นว่า กูรูหม่าไก่ มัสหมั่นแพะ และข้าวบุหรี่ แม้กระทั่งโรตี กระผมเป็นแพทย์ กระผมย่อมเข้าใจดี"

อาเสี่ยกิมหงวนพูดขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ

"อย่างไรก็ตาม อาหารแขกย่อยยากสักหน่อย ข้าพเจ้าคิดว่าอาหารจีนนั่นแหละเหมาะสำหรับการบริโภคอย่างยิ่ง เพราะอาหารจีนประกอบขึ้นด้วยเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เราอาจจะได้โปรตีนจากหูฉลาม ฟอสฟอรัสจากปลาจารเม็ดและวิตามิน เอ, บี, ซี, ดี, จากเนื้อไก่, หมู และเนื้อวัว ผมเห็นว่าเราควรจะลงมติเปิดการกินเลี้ยงกันในตอนค่ำวันนี้ที่ภัตตาคาร "ยองยองเหลา" ของผม ซึ่งผมยินดีเปิดเครดิตและคิดค่าอาหารเพียงห้าสิบเปอร์เซนต์เท่านั้น"

ท่านเจ้าคุณตลุมบอนคว้ากระเป๋าเอกสารลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย

"ถ้าเช่นนั้นเชิญประชุมกันต่อไปเถอะครับท่านสมาชิก ประเทศชาติของเรากำลังจะแย่อยู่แล้ว แต่พวกท่านแทนที่จะสนใจ กลับวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องการกิน ผมขอลาออกจากตำแหน่งประธานนับแต่บัดนี้"

เจ้าคุณปัจจนึก ฯ หัวเราะงอหงาย ลุกขึ้นวิ่งออกไปหาเจ้าคุณตลุมบอน ฯ แล้วยกมือจับแขน พามานั่งเก้าอี้ในตำแหน่งประธานตามเดิม เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พูดกับเพื่อนเก่าของท่านด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

"หัวลื้อก็ไม่ล้านเหมือนอย่างอั้ว อย่าทำใจน้อยไปหน่อยเลย พวกกรมการเหล่านี้เขาพูดเล่นหัวกันบ้างเพื่อให้บรรยาศในที่ประชุมคลายความเคร่งเครียดลงบ้าง ความจริงเราทุกคนพร้อมแล้วที่จะร่วมมือกันป้องกันประเทศชาติของเรา งานทุกสิ่งถ้าเราทำกันอย่างจริงๆ จัง ๆ เคร่งเครียดกับงานจนเกินไป เราย่อมทำดีไม่ได้ แต่เราทำด้วยอารมณ์ขัน ความยากลำบากของงานนั้นก็จะกลายเป็นง่ายเข้า พวกเรารู้กันดีแล้วว่าที่ลื้อเรียกประชุมก็เกี่ยวกับเรื่องประเทศมหาอำนาจที่ไม่ปรากฎชาติส่งฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้ามาวนเวียนเหนือนครหลวง และส่งทหารรบประมาณสองกองพันขึ้นบุกที่จังหวัดตราดและจันทบุรี เอาละ.....ลื้อเปิดการประชุมได้ จะเอายังไงก็เอากัน กรรมการทุกคนพร้อมแล้วที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติที่รักของเรา"

นิกรพูดเสริมขึ้นเบา ๆ

"เรื่องกินเลี้ยงโต๊ะจีนเอาไว้อภิปรายกันเสียให้เรียบร้อยแล้วค่อยตกลงกันนะครับ"

เจ้าคุณตลุมบอน ฯ มีใบหน้าชุ่มชื้นขึ้นเล็กน้อย ท่านลุกขึ้นยืนกล่าวกับกรรมการและสมาชิกทั้งหลายด้วยเสียงกังวานเป็นสง่า

"ข้าพเจ้าขอเรียนถามคณะกรรมการและสมาชิก.....




All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.