โดยส่วนตัวคิดว่าแต่งได้ดีถึงดีมาก
สำนวนคล้ายคลึงราวกับคุณ ป แต่งขึ้นเอง
คิดว่า น่าจะสนับสนุนให้คุณปริญญาแต่งต่อไปเรื่อย ๆ
ถ้าคุณปริญญามีเวลามากพอ

ขอเชิญแสดงคำวิจารณ์ของทุกท่านครับ
ขอแต่อย่าวิจารณ์ด้วยถ้อยคำรุนแรง
จะทำให้เสียกำลังใจนะครับ

ใครมีตอนวิมานใหม่ จะขาย หรือใครจะไปงานหนังสืออีก
ฝากซื้อหรือซื้อต่อ หรือ ขอซื้อ ถ้ามีมากกว่าเล่ม
ได้ไหมครับ
เพราะไปแล้วไม่เห็นเล่มที่ว่า เห็นแต่ ตอนบริษัทสามเกลอ

ขอบคุณครับ

ส่วนตัวก็คิดว่าดีนะครับ เพียงแต่รู้สึกอยู่นิดเดียว คือรู้สึกว่าคุณปริญญาพยายามจะใส่มุขทั้งหมด ที่เป็นเสมือนเอกลักษณ์ ของคุณป.ลงมาในตอนเดียวนี้มากไปนิด อือ บอกไม่ถูกอะครับ เพราะปกติมุขหลายๆมุข มันจะกระจายๆ กัน ไม่ได้รวมอยู่ในตอนๆเดียว อย่างนี้
ก็อันนี้เป็นอันเดียวที่สะดุดนะครับ นอกนั้นก็คิดว่าแต่งได้สนุกใช้ได้เลย ชวนให้ติดตามตอนที่จะมีต่อจากนี้ด้วย

เห็นด้วยครับ ชอบมาก ดูทันสมัยขึ้นครับ

ผมคิดว่า ตอนต่อไป คุณปริญญา อาจต้อง
ใช้หลานของสามเกลอเล่นแทนนะ
จะลากสามเกลอมาเล่นยุคนี้คงไม่ไหวแล้ว
หรือจะแต่งต่อจากยุคสามเกลอ
คุณปริญญาเองก็คงความรู้ไม่พอ
ผมหมายถึงแต่งแล้วเนียนน่ะครับ
เพราะคุณปริญญา คงยังเด็กอยู่

เฮ้อ เสียดายจริงๆ
อยากให้สามเกลอมีไปเรื่อย ๆ

ใช้ได้ประมาณหนึ่ง ต้องฝึกฝนอีกสักหน่อยคงดีกว่านี้ อยากให้เขียนเรื่อยๆเหมือนปู่ เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป

ผมให้ 90% ครับ สำนวน บุคคลิก บรรยากาศต่างๆ ได้หมดแล้ว รวมทั้งการแจกบทให้ตัวละครก็ทั่วถึงดี แต่ผมก็เห็นด้วยครับ ว่าดูจะรวบรวมมุขต่างๆ เข้ามามากไปนี้ดนึง (นี้ดเดียวเท่านั้น)

ผมว่าตอนนี้เป็นเหมือนการปูเรื่องราวเท่านั้น ถ้าคุณปริญญายังเขียนต่อไปเรื่อยๆ เราคงได้ดูกันต่อ ผมว่าจุดเด่นของสามเกลอยุคคุณ ป. คือการมองเรื่องราวสภาพสังคมผ่านตัวละคร ไว้ให้คุณปริญญาเขียนถึงส่วนนี้ก่อนก็จะรู้กันละครับว่าจะไปถึงไหน (แต่ตอนนี้ก็เริ่มมืให้เห็นแล้วนะครับ ผมชอบมากเลย ที่ว่า "โลกาภิวัฒน์ หรือ โลกาพิบัติ)

ผมเห็นด้วยกับคุณ Argon ครับ น่าจะลองใช้ตัวละครรุ่นหลานต่อไปเลย เพราะคุณ ป. ก็วางตัวไว้แล้ว เพราะในมุมหนึ่ง ผมก็ทำใจไม่ได้เหมือนกันที่นักวิทยาศาสตร์ชั้นยอดอย่างดิเรก จะกลายเป็นคนไม่รู้อะไรเลยในปี 2545 หรือกิมหงวนอาจมีเงินไม่เท่า นาย ก. (ชื่อสมมตินะครับ) เพราะไม่ได้ทำธุรกิจสื่อสาร รวมทั้งพลอาจกลายเป็นลุงแก่ๆ ที่ไม่ทันกับหนุ่มๆ สาวๆ สมัยนี้ (ผมคิดมากไปหรือเปล่านี่?)

คุณปริญญาแต่งได้ดีในระดับหนึ่งครับ
แต่มีข้อขอติอยู่บ้างในเรื่องของกาลเวลา
สามเกลอยุคใหม่นี้จะคล้ายๆกับการแต่งเรื่องขุนช้างขุนแผนเลยในเรื่องของเวลานั่นแหละ เพราะขุนช้างขุนแผนมีคนแต่งและขัดเกลากันหลายคน ทั้งสำนวนเก่า สำนวนครูแจ้ง สุนทรภู่ แม้กระทั่งสำนวนที่มีผู้สันนิษฐานว่าเป็นของกรมพระยาดำรงท่านด้วย
ดังนั้นการดำเนินเรื่องเหตุการณ์และสิ่งแวดล้อมต่างๆในเรื่องขุนช้างขุนแผนจึงเปลี่ยนไปตามยุคสมัยของผู้แต่งตอนนั้นๆ ไม่ใช่ตามยุคสมัยที่ควรจะเป็นตามท้องเรื่องที่คาดกันว่าเป็นสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่2 หรือสมเด็จพระพันวษาในเรื่อง
ยกตัวอย่างง่ายๆที่พอจำได้ว่า มีอยู่บทหนึ่งที่สมเด็จพระพันวษาท่านทรงพระแสงดาบคาบค่าย ทำให้คิดได้เลยว่า บทนั้นหรือตอนนั้น ต้องแต่งสมัยหลังสมัยสมเด็จพระนเรศวรแน่ๆ เพราะพระแสงดาบคาบค่ายนั้นเป็นของพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เป็นเวลานาน

ย้อนกลับมาเรื่องสามเกลอฉบับหลานปู่ คุณปริญญาคงจะต้องระวังเรื่องความลักลั่นเรื่องกาลเวลาและสิ่งแวดล้อมต่างๆให้จงหนัก ถึงแม้เวลาจะผ่านมาแค่สามสิบกว่าปี แต่โลกช่วงที่ผ่านมานี้ช่างหมุนเร็วและเปลี่ยนแปลงเร็วยิ่งนัก
ผมอ่านเรื่องนี้แล้วอย่างผ่อนคลาย ไม่ได้คิดจะจับผิด และไม่ได้คิดด้วยว่าจะต้องเป็นสำนวนของคุณปู่คุณปริญญา สามเกลอฉบับคุณปริญญาก็ควรเป็นเอกลักษณ์ของคุณปริญญา ซึ่งเป็นผู้ที่มีความชอบธรรมอย่างยิ่งที่จะสืบสานงานเขียนชุดสามเกลอต่อไป
แต่หนังสือเล่มนี้มีอยู่ตอนหนึ่งซึ่งกระทบความรู้สึกของผมอย่างรุนแรงทั้งๆที่ไม่ได้คิดจะจับผิด แต่ความลักลั่นเรื่องกาลเวลามันโจ่งแจ้งชัดเจนจนผมต้องขอนำมาติติงไว้ในที่นี้ ก็ตอนที่สามเกลอไปพบเถ้าแก่กิมเบ๊ที่เยาวราชแล้วนิกรขอ"เป๊ปซี่ หรือ โค้ก ขวดลิตร" มากินน่ะซีครับ ท่านที่อายุสามสิบกว่าๆคงจะรู้ว่าสมัยของสามเกลอในเรื่อง (สามเกลอมาจากปี 2511) มันไม่มี "โค้ก" ครับ มีแต่ "โคคา โคล่า" เขาเพิ่งจะมารณรงค์กันเมื่อสิบกว่าปีมานี้เองให้เรียก โคคาโคล่า ว่า โค้ก เช่นในสปอตโฆษณาที่ร้องว่า "โคคาโคล่าก็คือโค้ก" แถมยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอีกในหลายๆสื่ออีกว่า ควรจะเขียนชื่อเจ้าน้ำอัดลมยี่ห้อนี้ยังไงดีระหว่าง "โค้ก" กับ "โคก" แล้วยิ่งขวดลิตรแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ในสมัยนั้นเลย เพราะขวดลิตรเพิ่งมามีสมัยผมเป็นวัยรุ่นอยู่ ก็แค่ยี่สิบปีประมาณนี้แหละครับ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอต่ออีกนิด เรื่องคำเรียกสามเกลอนั้นมีวิวัฒนาการครับ สามเกลอรุ่นหลัง (ที่แสงดาวเอามาพิมพ์ใหม่) จนถึงยุคศาลาโกหก จะไม่ค่อยเรียกสามเกลอโดยชื่อเฉยๆเท่าไหร่ครับ สามเกลอจะมียศนำหน้าทุกคน เช่น พล ต. พล พ.อ. นิกร เป็นต้น โดยเฉพาะดิเรก จะไม่ค่อยเรียกว่า ดร. ดิเรกเหมือนยุคก่อน แต่จะเรียกว่า "ศาสตราจารย์ ดิเรก" เสียมากกว่า นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีในเรื่องนี้

ผมดีใจมากที่คุณปริญญามาเขียนสามเกลอต่อจากคุณปู่ ผมเป็นคนหนึ่งที่จะขอสนับสนุนคุณปริญญาต่อไป สิ่งที่ผม "ติง" มาก็เพื่อให้สามเกลอยุคใหม่มีความต่อเนื่องจากสามเกลอเดิมอย่างค่อนข้าง "เนียน" ไร้รอยตะเข็บแค่นั้นเองแหละครับ

โดยภาพรวมแล้วก็โอเค เพียงแต่การใช้สำนวนคงยังดูไม่ราบรื่นนัก เพราะสมัยก่อนที่คุณป.แต่งจะเป็นเหมือนใช้ภาษาในชีวิตประจำวันเหตุการณ์ปัจจุบัน เพราะฉะนั้นคุณปริญญาคงต้องใช้จินตนาการมากหน่อยเพื่อให้รู้สึกเหมือนว่าตัวเองก็อยู่ในยุคนั้น หวังว่าคงไม่ท้อแท้นะ ยังให้กำลังใจอยู่พยายามเรื่อย ๆ อะไรๆอาจจะราบรื่นขึ้น

ดีออกมาอีกจะซื้อ

เรียน สมาชิกชมรมที่เคารพทุกท่าน
ขอบพระคุณ...กำเสี่ย...เเท้งค์กิ้ว สำหรับคำวิจารณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่ทุกท่านกรุณาต่อผม นี่คือสิ่งที่ผมปรารถนาอย่างยิ่ง (มากกว่าคำชม) ที่จะได้เห็นและได้อ่าน เพราะเป็นข้อมูลอันสำคัญที่จะทำให้ผมนำไปปรับปรุงข้อบกพร่องต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นในฉบับต่อไป (ถ้าจะมีสามเกลอฉบับหลานปู่เล่ม ๒)
กรุณาช่วยกันวิจารณ์อย่างเต็มที่ครับ กำลังใจของทุกท่านเป็นสิ่งมีค่า แต่คำวิจารณ์มีค่ามากยิ่งกว่า
ขอบพระคุณทุกท่านด้วยใจจริง

ขอเป็นกำลังใจให้คุณปริญญา อ่าน "อาคันตุกะต่างมิติ" แล้วเป็นความเหมือนที่แตกต่างจากสามเกลอของคุณ ป. แต่อ่านแล้วพอรับได้ว่ายังเป็นคณะพรรคสี่สหายชุดเดิม

ผมคิดว่า คำติงของคุณชายใหญ่ละเอียดดีมาก
ผมคิดว่าคงเป็นแค่ตอนนี้ตอนเดียวล่ะครับ
เป็นเพราะ คุณปริญญา ต้องเขียนเรื่องที่
ไม่ใช่ในสมัยตน

ผมขอบังอาจเสนอความเห็นเพิ่มเติมนะครับ

อยากให้คุณปริญญาค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็น
เรื่องของตนเอง ไหน ๆ ก็ใช้ชื่ออื่น
ซึ่งมิใช่ ป อินทรปาลิตแล้ว

การฝืนเขียนสำนวนคุณ ป ไปเรื่อย ๆ
มันทำให้เขียนลำบากนะผมว่า

เอามาอ่านอีกรอบนึงครับ สาบานได้ว่าไม่ได้จับผิด ผมสะดุดอีกเรื่องนึงอีกแล้ว เรื่องเดิมๆครับเกี่ยวกับกาลเวลา คราวนี้เป็นเรื่องอายุของสามเกลอกับศาสตราจารย์ปรัชญา ตอนที่พลบอกกับศาสตราจารย์ว่าศาสตราจารย์แกแก่สามเกลอ และเกือบเท่าเจ้าคุณ อันนี้ไม่ใช่แน่นอนครับ เพราะศาสตราจารย์แกอายุ 50ปีตามเรื่อง ส่วนสามเกลอตอน พ.ศ. 2511 อายุจะเท่าๆกับศาสตราจารย์ คือกิมหงวนนี่อายุ 51ปีแน่ๆ เพราะเกิดปีมะเส็ง 2460 (ปีน้ำมากตัวเลยสูง) ส่วนท่านเจ้าคุณน่ะ ถ้านับจริงๆก็เกือบ 90ปีแล้วนะครับในตอนนั้น แต่แกแก่และตายไม่ได้ เพราะจะทำร้ายจิตใจคนอ่านไปหน่อย

อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจคุณปริญญาแต่งสามเกลอต่อไปครับ น่าจะสนุกเหมือนกันที่เราจะมองย้อนไปในอดีต ปะติดปะต่อเหตุการณ์หลังจาก พ.ศ. 2511แล้วเอาสามเกลอไปอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆในช่วงนั้น เช่นสามเกลอกับสงครามเวียดนาม สามเกลอกับเหตุการณ์ 14 ตุลา ........

ไม่ทราบว่าผมเพ้อฝันไปหรือเปล่าเนาะ

เจ้าคุณท่านโผล่มาตอนแรกปี
๒๔๘๓ หรือไงนี่ ก็ห้าสิบห้าแล้ว
เจ้าคุณท่านถึงตอน ปีสิบเอ็ด ก็ยี่สิบแปด
ก็ประมาณ แปดสิบนิด ๆ
อายุประมาณ ป๋าต๊อกนั่นล่ะครับ

แต่ยังดูหนุ่ม เพราะออกกำลังกายบ่อย ๆ
โดยเฉพาะไล่เตะคน
และยังไม่มีผมหงอก

ได้อ่าน "อาคันตุกะต่างมิติ" ที่คุณปริญญา อินทรปาลิต เขียนแล้ว สนุกมากครับ แต่มีความเห็นเช่นเดียวกับคุณ Argon และคุณชายใหญ่ ที่ว่าคุณปริญญาควรเขียนด้วยสำนวนของตัวเอง ดีกว่าเขียนตามสำนวนของคุณ ป. เพราะเคยอ่านเรื่องสั้นของคุณปริญญาในหนังสือดิฉันหลายเรื่อง คุณปริญญามีสำนวนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ดีอยู่แล้ว จึงขอเสนอว่าถ้าคุณปริญญาไม่พยายามหรือจงใจเลียนแบบสำนวนของคุณ ป. อินทรปาลิต เชื่อว่าสามเกลอฉบับหลานปู่จะน่าอ่านมากกว่านี้

สิ่งหนึ่งที่อยากให้คุณปริญญาทำต่อไปคือ เขียนหนังสือ แม้ว่าอาคันตุกะต่างมิติจะพยายามนำเสนอในรูปแบบเก่าซึ่งรวมเอาทุกสิ่งทุกอย่างหรือมุขต่างๆที่มีเอามารวมไว้ในเล่มนี้ก็ จนคุณชายใหญ่แจงได้ละเอียดมาก อย่าลืมนะครับทดลองเอาความรู้สึกของคุณปริญญาเขียนลงไปเสมือนกำลังพิมพ์ต้นฉบับให้คุณปู่ พวกเราเหล่าสาวกสามเกลอกำลังรอเล่มที่2 ครับ

แหะๆๆ ไม่มีความเห็นคะ แต่รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากจริงๆ... แต่งสามเกลอต่อไปเรื่อยๆนะคะ คุณท้าวตามอ่านอยู่คะ เป็นกำลังใจด้วยอีกคน