๒๕ กันยายน ๒๕๑๑
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



๒๕ กันยายน ๒๕๑๑
จากที่มีเพื่อนสมาชิกได้ตั้งกระทู้ไว้ว่า ครบรอบวันที่คุณ ป.อินทปาลิต ได้จากไป ให้ร่วมกันตั้งกระทู้เพื่อแสดงความระลึกถึงท่านร่วมกัน
- - -
จากสัปดาห์หนังสือฯ คราวก่อน บังเอิญได้หนังสือ ที่ ชูชัย พระขรรค์ชัย ซึ่งเป็นคู่เขยกับ ป.อินทปาลิต ได้เขียนขึ้น เกี่ยวกับชีวประวัติของตัวเขาที่เกี่ยวข้องบุคคลสำคัญสองท่าน คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และปรีชา อินทปาลิต

หนังสือเป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค หนาประมาณ ๓๐๐ หน้า นับจากตอนที่ซื้อมาก็อ่านวันละนิด วันละหน่อย แต่ไม่จบสักที ในเล่มมีเรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับคุณป. อยู่พอสมควร รวมถึงวาระสุดท้ายในชีวิตของคุณป.อินทปาลิต ชูชัย ก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย

วันนี้เลยหยิบมาอ่านคร่าวๆ จนจบเล่ม และตัดทอนเอาเฉพาะตอนสำคัญและเกี่ยวข้องกับคุณป. มาพิมพ์ กะจะโพสต์ลงในกระทู้
เมื่อพิมพ์เสร็จ พบว่ายาวถึง 4 หน้า(พิมพ์ใน word) เลยลองเอาลงในเว็บ(ที่เพิ่งหัดทำตอนเย็นนี้) ดู จะได้อ่านง่ายขึ้น
เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ ที่ http://www.thai.net/rimnamm
- - - - -
ิborn
โดยคุณ : ร่วมระลึกถึง ป.อินทปาลิต - [ 25 ก.ย. 2002 , 1:09:58 น. ]

ตอบ
ผมเองล่ะ แหะๆ ตัวตั้งตัวตีให้เกิดหัวข้อนี้...

ก็เลยถือโอกาสนี้ เข้าสู่วันที่ 25 กันยายน (เวลาตีสามกว่า) กล่าวถึง 34 ปี แห่งการจากไป ของ ลุง ป.อินทรปาลิต เสียหน่อย

ผมเกิดหลังจากลุง ป. ท่านเสียไป ราวๆ เกือบ 1 ปี และกว่าจะได้รู้จักสามเกลอ ก็ผ่านไปอีก 10 ปีละมั้งครับ ตอนนั้นเรียน ป.6 หรือไงนี่ล่ะ แล้วเข้าไปห้องของอา คือชอบไปหาหนังสือในห้องอาอ่าน แล้วเจอสามเกลอตอน "บ้านผีสิง" เห็นหน้าปกเป็นการ์ตูน ก็คิดว่าคงสนุก เปิดอ่านไปเรื่อยๆ เออนะ มันสนุกจริงๆ ด้วย นั่นคือการได้รู้จัก ลุง ป. ครั้งแรกของผม

จากนั้นก็หาอ่านเรื่อยมา เดินเทิ่งๆ จากห้วยขวาง ผ่านตลาดห้วยขวาง ไปถึงแยกโค้งจะไปสุทธิสาร เพื่อเช่าหนังสือสามเกลอมาอ่าน สมัยก่อนเดินสบายมาก เพราะยังไม่มีถนนรัชดาเหมือนตอนนี้ นานๆ จะมีรถวิ่งเข้าไปห้วยขวางสักคันหนึ่ง บางทีขากลับเดินผ่านตลาดห้วยขวาง ก็จะมีหนังสือแบกะดินขายด้วย ก็มีสามเกลอขายเล่มละสามบาท (ของผดุงศึกษา) จำได้แม่นว่า เคยซื้อศาลาโกหกมาด้วยจากแผงนี้ แต่อ่านแล้วไม่ชอบ มีสามเกลอนิดเดียวเอง นี่ยังนึกเสียดายไม่หาย... โถ น่าจะเก็บไว้นะนั่น

หรือบางทีก็จะเดินไปทางเขตห้วยขวาง ก็จะมีร้านเช่าหนังสือเช่นกัน มีสามเกลอแยะพอประมาณ จะสังเกตว่า ร้านเช่าหนังสือสมัยก่อน จะต้องมีสามเกลอประดับร้านไว้เสมอ ไม่ว่าร้านนั้นจะเล็กแค่ไหนก็ตาม

จำได้อีกว่า เคยซื้อสามเกลอมาเล่มนึง ชื่อตอนว่ารวมดาราหรือไงนี่ล่ะ เป็นตอนที่เสี่ยหงวนจะสร้างหนังแล้วไปเจอดารามากมาย เช่น ล้อต๊อก รู้สึกว่าตอนนี้จะหายากในปัจจุบัน เช่นกัน

ต่อมาเรียนมัธยมต้น ก็เริ่มมีเงินซื้อสามเกลอใหม่ๆ ได้เอง ร้านประจำคือร้าน ธมบุ๊คซาลอง ชื่อแปลกไหมล่ะครับ ร้านนี้จะอยู่ตรงแยกสุทธิสาร ถ้ามาจากวิภาวดีด้านเซ็นทรัลลาดพร้าว ก็มาถึงแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าห้วยขวางนั่นแหละ ร้านจะอยู่เลยเข้ามาหน่อยนึง มีป้ายร้านและมีลายเซ็น เชิด ทรงศรี อันเบ้อเร้อติดหน้าร้านด้วย สงสัยว่าคงเป็นร้านของ เชิด ทรงศรี กระมัง ซึ่งร้านนี้จะมีสามเกลอแยะมาก ตอนนั้นจะมีของ ผดุงศึกษา , บันดาลสาส์น, บรรณกิจ, ประพันธ์สาส์น แยะมากๆ โดยเฉพาะของประพันธ์สาส์นที่ผมได้ซื้อมาอ่านตอนนั้น แล้วก็ไม่มีการพิมพ์ออกมาอีกเลยจนบัดนี้ เช่นเรื่องไส้โค, ริโออาโก, เฮโรอีน (แต่บางเรื่องแสงดาวจะมาพิมพ์ใหม่แล้ว)

แต่กำลังจะบอกว่า สามเกลอที่ผมซื้อหามานั้น หายไปเรียบแล้ว อิอิ.. เนื่องจากย้ายบ้านบ่อยมาก สามสี่หน ย้ายทีก็หายที อีกทั้งไม่คิดจะเก็บสะสมด้วย

มาถึงตอนนี้ก็เริ่มสะสมใหม่ หาซื้อตามแบกะดินบ้าง ตามห้างบ้าง สั่งซื้อตามเวบบ้าง คาดว่าตอนนี้มีราวๆ เกือบร้อยเล่มแล้ว ก็เป็นพวกพิมพ์ใหม่เสียทั้งนั้นแหละ ไอ้จะหาของเก่าๆ ก็คงยาก บางเล่มคงผุหมดแล้ว ไม่ก็ขายแพงเว่อร์เกินเหตุ

แต่ก็แปลกว่า ... อ่านสามเกลอมา 20 กว่าปี ไม่เคยนึกถึงเลยว่า คนแต่งเนี่ย เขาเป็นใคร รู้แต่ว่าคงอายุมากแล้วละมั้ง เพราะดูจาก พ.ศ. ในการเขียนก็เดาได้ว่า อายุคงรุ่นเดียวกับคุณปู่ คุณตา ผม

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ก็ถึงได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับ ป.อินทรปาลิต มาก นับได้สามสี่เล่ม ที่แต่งขึ้นมาสำหรับ ลุง ป. โดยเฉพาะ ก็ถึงได้รู้จักท่านมากขึ้น และเป็นการเพิ่มรสชาติให้เราอ่านสามเกลอมากขึ้นอีกด้วยสิ อาจจะว่าผมเกิดทันพอจะรับรู้บรรยากาศเก่าๆ ตามที่ท่านเขียนไว้บ้าง ก็เลยยังพอรับรสของงานเขียนได้มากมาย

เทียบไป พ่อผมก็รุ่นเดียวกับลูกชายสามเกลอ ผมเองคงรุ่นเดียวกับลูกชายของลูกชายสามเกลออีกที คือ สินาด ลูกของสมนึก ต้องเรียกได้ว่า ลุง ป. เขียนหนังสือได้ตามเวลาจริงๆ ตัวละครแก่ลงไปตามเวลาที่เปลี่ยนไป แถมวางแปลนไว้ล่วงหน้าอีกต่างหาก ถ้าท่านไปจากไปเสียก่อน คงได้อ่านสามเกลอต่อไปอีกหลายร้อยตอนทีเดียวเชียว เท่านี้ก็่อ่านจนอินไปกับงานเขียนของท่านแล้วล่ะครับ อ่านจนเราเห็นภาพ นึกว่ามันเป็นจริงด้วยซ้ำ เหมือนกับตัวละครท่านมีตัวตนจริงๆ เพราะท่านคงเป็นนักเขียนคนเดียวในไทย ที่เขียนเรื่องจากความจริงตามสภาพสังคม ตามกาลเวลา และยังมีคนจริงๆ อยู่ในสามเกลอด้วย จนบางทีคนอ่านแทบจะแยกไม่ออกว่า อันไหนจริง อันไหนท่านจินตนาการขึ้น จัดว่าเป็นการเขียนที่ต่อเนื่อง และใช้เวลาในการเขียนมากจริงๆ แถมเนื้อหาและตัวละครยังมีการเติบโตขึ้นมาเหมือนคนจริงๆ ด้วยสิเอ้า...

เสน่ห์ตรงนี้ละมัง (นอกจากความตลก) ที่ทำให้สามเกลอไม่เคยหายไปจากแผงหนังสือ และจากใจคนอ่าน แบบกาลเวลาก็ไม่สามารถลบล้างสถิตินี้ไปได้

และจากประวัติท่าน ก่อให้เกิดแรงดลใจหลายๆ อย่างในการประกอบอาชีพของผม เนื่องจากผมก็ทำอาชีพใกล้เคียงกับท่านเหมือนกัน ยิ่งหลังๆ หันมาทำงานเขียนด้วย รู้สึกดีใจทีเดียว ที่ได้เฉียดใกล้กับอาชีพของ ลุง ป. แม้จะห่างไกลแบบคนละชั้นกับท่านก็ตาม แค่เฉียดๆ ก็ยังดีล่ะน่า แหะๆ

แม้แต่ท่านตาย ท่านก็ยังวางมุขตลกไว้ล่วงหน้าด้วย ... เช่นตัวละครในเรื่องชอบพูดว่า ถ้าตาย ให้ไปเผาที่วัดมกุฏ (เขียนชื่อวัดก็ผิดขออภัยนะครับ) มุขนี้จะใช้บ่อยมาก แล้วตอน ลุง ป.ท่านเสียชีวิตลงในวันที่ 25 ก.ย. 2511 งานศพท่านก็ยังจัดที่วัดมกุฏเลย ดูสิ ท่านเขียนให้มีส่วนร่วมจากหนังสือมาถึงชีวิตจริงได้ด้วย

ลุง ป. จากไป พร้อมกับสามเกลอก็จบสิ้นลงไปด้วย แต่กระนั้นท่านก็เขียนล่วงหน้าไว้ 1 ตอน คือ สู่อนาคต บรรยายถึงสามเกลอไว้ล่วงหน้าในอนาคต เรียกว่าท่านไม่ยอมพลาดเลยสักนิด คือมีทั้งขึ้นต้นและลงท้ายให้เสร็จสรรพ ว่ากันว่า สามเกลอตอนสุดท้ายจริงๆ ของท่านคือตอนเจ้าแห้วบวช เขียนก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเท่านั้นเอง..... และจริงๆ แล้ว ดูจากการเขียนสามเกลอของท่านหลายๆ ตอน ท่านคงรักเจ้าแห้วไม่น้อยทีเดียว ถึงกับจัดงานบวชให้ก่อนท่านจากไป

34 ปี ผ่านไป ... กับสามเกลอที่ถูกนำมาพิมพ์ใหม่เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องให้คนรุ่นหลังได้อ่านกัน นับว่าเป็นนักเขียนคนเดียวในไทยก็ว่าได้ ที่ยังมีคนอ่านงานของท่านอยู่มาตลอด และมีการพิมพ์หนังสือซ้ำแล้วซ้ำอีก รวมถึงการนำต้นฉบับที่ไม่มีการพิมพ์ซ้ำ กลับมาทำใหม่อีกด้วย จึงพูดได้เต็มปากว่า ลุง ป. อินทรปาลิต คือนักเขียนที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเมืองไทย และเขียนหนังสือได้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนได้อย่างแน่นอน

(พิมพ์ผิด ตกหล่น หรือไม่สุภาพตรงไหน ขออภัยนะครับ เนื่องจากมันจะตีสี่เข้าไปแล้ว)
โดยคุณ : ble3d - ICQ : 21526438 - [ 25 ก.ย. 2002 , 4:18:23 น.]

ตอบ
ผมขอร่วมรำฦกด้วยคน

ผมเกิดทันลุง ป. ครับ แต่เกิดก่อนท่านเสียราวๆ 4 เดือนเท่านั้น เลยจำความไม่ได้ว่าตอนนั้นเป็นข่าวใหญ่แค่ไหน แหะ แหะ

รู้จักกับสามเกลอตอนอายุ 6 ขวบ เรียกว่าอ่านหนังสือออกก็อ่านเลย เรื่องแรกคือเรื่องปราบสมาคมลับ สนุกมากโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ เพราะเป็นเรื่องลึกลับ มีสืบสวน แก๊งมาเฟีย พระเอกสู้กับผู้ร้าย โอ๊ย สารพัดจะสนุก จากนั้นก็ตามอ่านเรื่อยมา โชคดีที่คิดเก็บสะสมตั้งแต่สมัยนั้น แต่ก็มีสูญหายไปตามกาลเวลา ปลวกกินบ้าง เคยมีศาลาโกหกอยู่ 3-4 เล่ม ก็หายไปหมดแล้ว ชุดของประพันธ์สาส์น ที่คุณble3d ว่า ก็มีอยู่บ้าง หายไปก็เยอะ สนุกๆ ทั้งนั้น เช่น ริโออาโก, จ้าวปฐพี, ประกาศิตมัจจุราช

ส่วนเรื่องแนวอื่นๆ ของท่าน ผมเพิ่งอ่านเสือใบเมื่อปีก่อน ปีนี้งานหนังสือว่าจะซื้อเสือดำ ส่วนเรื่องรักโศกเคยเห็นเรื่องนักเรียนนายร้อย กับเรื่องยอดสงสาร แต่ยังไม่เคยอ่านครับ กลัวน้ำตาร่วง

ท่านนับเป็น Hero ของผมจริงๆ ผมได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตจากเรื่องของท่านเยอะมาก ทั้งด้านความไม่เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ความรักในหมู่ญาติ/เพื่อน มารยาทสังคมที่ดีงามต่างๆ ความรักในวัฒนธรรมไทย การใช้ภาษา ฯลฯ

ผมดีใจมาก และภูมิใจทุกครั้งที่มีคนระลึกถึงท่าน วันนี้เป็นโอกาสดีจริงๆ ครับที่เราจะได้ร่วมกันระลึกถึงท่านอีกครั้ง ขอบคุณเว็บนี้ที่ทำให้เราชาวคณะสามเกลอได้มาเจอกัน
โดยคุณ : นักอ่านชั้นอะ - [ 25 ก.ย. 2002 , 10:04:42 น.]

ตอบ
วันนี้ 25 กันยายน 2545 เงินเดือนผมออก?
ม่ายช่าย 25 กันยายน 2511 เป็นวันที่ลุง ป.อินทรปาลิตเสีย เท่าที่จำความได้เคยอ่านสามเกลอที่ปกด้านหลังจะพิมพ์ขอแสดงความเสียต่อการจากไปของนักเขียนหัสนิยายสามเกลอ ผมจำไม่ได้แล้วล่ะว่าเป็นของสนพ.ไหน แต่เป็นหนังสือที่ผมหยิบจากที่บ้านขึ้นมาอ่านสมัยเด็กอยู่ซัก ป.6 ได้ ทำให้รู้ว่านักเขียนท่านนี้เสียชีวิตแล้ว ก็ใจหายนะตอนนั้นว่าจะมีหนังสือให้เราอ่านอีกมั้ย ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าท่านเขียนมาเป็นพันๆตอนแล้ว ไม่ทราบว่าใครมีหนังสือสามเกลอรุ่นที่ ด้านในของปกหลังมีคำแสดงการเสียใจมั่งครับมีรูปของท่านด้วยเท่าที่ผมจำได้ คงไม่ต้องบอกเลยนะครับว่าเราได้อะไรจากการอ่านสามเกลอ สมาชิกทุกท่านคงรู้ดีว่าสิ่งๆดีๆที่ท่านมอบให้เป็นมรดกทางวรรณกรรมนั้นสูงส่งค่าเพียง ขอบคุณ สนพ.พิมพ์ต่างๆที่ยังทยอยพิมพ์สามเกลอมาให้พวกเราได้อ่านครับ และต้องขอบคุณท่านเวบด้วยที่ทำให้พวกเหล่าสาวก ลุงป.ได้พูดคุยกันผ่านเวบ นี่แหละอิทธิพลสามเกลอ.............
โดยคุณ : อดิศร - [ 25 ก.ย. 2002 , 21:52:52 น.]

ตอบ
ได้อ่านของเพื่อนๆแล้ว ไม่รู้จะเขียนอะไรนอกจากมาร่วมลงชื่อด้วยคนค่ะ :)
โดยคุณ : ละม่อม - [ 25 ก.ย. 2002 , 22:28:29 น.]

ตอบ
ขอร่วมกระทู้นี้ด้วยคนผมเรื่มรู้จักสามเกลอตอนสักประมาณป.4ตอนแรกก็ไม่เข้าใจญาติๆผมตอนกลางคืนเขาจุดตะเกียงแล้วนั่งล้อมวงกันวงใหญ่(ผมอยู่ต่างจังหวัดบ้านนอกสุดๆ)แม่ผมถือหนังสือแล้วอ่านออกเสียงให้ทุกคนฟังเพราะป้าน้าอาของผมส่วนใหญ่อ่านหนังไม่ออก(คนโบราณ)ถึงออกก็กระท่อนกระแท่นไม่ทันใจผู้ฟังแม่ผมการศึกษาดีคือจบป.4สมัยนั้นก็ถือว่าเต้ยแล้วเป็นเรื่องเสือใบ,เสือดำแต่บางคืนก็เห็นทั้งวงเขานั่งหัวเราะกันน้ำหูน้ำตาไหลผมก็ไม่ค่อยรู้ว่าเรื่องอะไรบางทีว่าเขาขำอะไรกันนักหนาเคยถามเหมือนกันเลยถูกไล่ให้ไปนอนเขาหาว่าทะลุกลางปล้อง(คงเสียอารมณ์)ซักประมาณป.5เลยแอบเอาไปอ่านที่โรงเรียนมีให้อ่านเยอะพอสมควรต่อมาจึงรู้ว่าหนังสือที่แม่อ่านนั้นครูใหญ่ที่โรงเรียนเขานำมาจากในเมืองนำมาให้บ้างให้ยืมบ้างเขาเป็นเพื่อนกันกับแม่(ผมยังจำชื่อท่านได้ทุกวันนี้)นี่แหละจุดเริ่มของผมต่อมาผมมีโอกาสเข้าในเมืองร่ำเรียนหนังสือสูงขึ้นจึงมีโอกาสได้อ่านมากยิ่งขึ้นจากห้องสมุดต่างๆบ้านญาติและคนรู้จักที่อยู่ในเมืองยิ่งเข้ากรุงเทพฯยิ่งหาอ่านได้มากตัวละครที่รู้จักตัวแรกคงจะเป็นอ้ายแห้วนี่แหละเพราะคำว่ารับประทานครับผมและผมก็เคยถูกด่าว่าเสือกเหมือนเจ้าแห้ว(โถก็เด็กมันอยากรู้อยากเห็นนี่)
โดยคุณ : คนบ้า - [ 28 ก.ย. 2002 , 20:16:17 น.]

ตอบ
ขอร่วมด้วยคน จากที่อ่านของเพื่อนๆแล้วก็เต็มที่แล้วนะ ขอเต็มอีกนิดคือว่า ตั้งแต่อ่านนิยายมายังไม่เคยรู้สึกว่านิยายเรื่องไหนจะทำให้ตัวละครทุกตัวมีชีวิตและน่าสนใจได้เท่านี้เลย
โดยคุณ : บุญทุ่ม - [ 30 ก.ย. 2002 , 13:27:38 น.]

ตอบ
ประมาณ 2523 อายุ 13 ได้อ่านครั้งแรกของพ่อมั้ง
เป็นเล่มบางๆ จากนั้นก็ไปหาซื้อที่ ที่ ร้านหนังสือหลังเซ็นทรัลวังบูรพา ร้านแพร่พิทยามั้ง จำไม่ได้แน่นอน เป็นปกแข็งกระดาษปรูฟสีน้ำตาล เล่มละ30บาท จนบัดนี้ยังอยู่เลย กระดาษคล้ำกรอบ
คลาสิกมาก สมัยนู้นต้องเก็บค่าขนมถึงซื้อได้
บางทีไปร้านหนังสือกับพ่อก็สบายไป ต่อมาก็อ่านมาเรื่อย โดยเฉพาะตอนกินบะหมี่มาม่าต้มด้วย มีความสุขจัง อ่านไปหัวเราะไป หรือบางทีไปจตุจักรสมัยนู้นซื้อแบบมือสอง ก็ยังอยู่ จนบัดนี้สามสิบห้ากว่าแล้วเอามาอ่านอีกที ก็มีความสุขมาก อยากมียานเวลา
กลับในสมัยนั้นไปดูสภาพความเป็นอยู่ แต่ผมว่า
อ่านแล้วเหมือนกับได้เข้าไปอยู่ในสมัยนั้นจริงเลยนะ
โดยคุณ : Pomzila - [ 16 ต.ค. 2002 , 13:38:17 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.