เรื่องของกาแฟ และกระป๋อง
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



เรื่องของกาแฟ และกระป๋อง

คงจะสังเกตว่า เวลานิกรหรือกิมหงวนไปเดินป่า แล้วพอเหนื่อย หิวน้ำ ชอบหยิบเงินให้เจ้าแห้วไปซื้อข้าวผัด และกาแฟชงใส่กระป๋องมา อันนี้เป็นมุขแบบแทบจะมีทุกเล่มที่สามเกลอต้องไปผจญภัย


ผมก็เลยนึกถึงสมัยเด็ก ยายพาไปดูลิเกที่ตลาดเตาปูน ในสมัยนั้นถ้าจะกินกาแฟจากรถที่มาเข็นขาย มีสองทางคือ ยืนกินที่รถ อันจะใส่แก้วก้นแคบๆ ให้ (ถ้าไม่ใช่แก้วแบบนี้จะกินไม่มัน) เป็นกาแฟดำ แล้วจะใส่นมข้นให้นอนก้นไว้ (อุ้ย พูดแล้วชักอยากกิน) มีน้ำชาให้อีกแก้ว ถ้าอ่านสามเกลอมาแต่ต้น ก็จะพบอุปกรณ์อีกชนิดคือ พวงใส่กาแฟ ก็คือพวงใส่แก้วนั่นแหละ แต่จะใส่แก้วกาแฟ แก้วชาได้ 4 แก้ว กินได้สองคนพอดี

้ถ้าให้ครบเครื่องก็นั่นแหละ ต้องมีขนมปังชุบไข่ทอดด้วย ไม่ถ้าเป็นตอนเช้าก็ปาท่องโก๋จิ้มนมอะไรก็ว่าไป

เหตุที่มักมีกาแฟในเรื่องสามเกลอเสมอ เพราะว่า ลุง ป. เป็นนักกินกาแฟตัวยง เวลาเขียนเรื่องต้องชงกาแฟกินไปด้วยทั้งวัน รวมถึงเรื่องการสูบบุหรี่ด้วย ถ้าเห็นตัวละครจุดบุหรี่สูบ ก็ขอให้นึกภาพคนเขียนก็จะจุดบุหรี่สูบไปด้วย แบบเดียวกับพนมเทียน ที่ตัวละครในเพชรพระอุมาจะสูบบุหรี่กันยกใหญ่ (แต่เรื่องบุหรี่นี้ ลุง ป. ก็เขียนไว้ในสามเกลอเสมอว่ามันไม่ดี อย่าได้ไปสูบมันเลย)


ย้อนกลับมาเรื่องกระป๋อง ก็คือกระป๋องนมข้นที่เขาชงกาแฟหมดแล้วนี่ล่ะ มาล้างให้สะอาด แล้วเจาะรูที่ฝา อ้าปากฝาให้พะงาบๆ ไว้ เอาเชือกกล้วยคล้องที่ฝา ใครสั่งกาแฟแบบไม่กินที่รถ ก็ใส่กระป๋องนี้แล้วไปเดินกินที่อื่นตามใจชอบ เพราะว่าสมัยก่อนไม่มีถุงพลาสติกนั่นเอง

แล้วที่แน่นอนคือ ดูลิเกยันดึก ผมก็จะหลับแถวนั้นแหละ พอลิเกเลิกยายก็ต้องลากพาเดินกลับบ้านทุกที อิอิ (ไม่รู้จะเอาเราไปทำไม)

โดยคุณ : ble3d - ICQ : 21526438 - [ 13 ก.ย. 2002 , 0:10:36 น. ]

ตอบ
สำหรับผมนะสมัยเด็กเวลาตามแม่ไปตลาดตอนเช้า(แบบลูกคนเล็กไง)ที่จังหวัดลพบุรีชื่อตลาดบนเมือง สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นในตลาดสดคือคน เยอะมากพลุกพล่านจริงๆ ไอ้ความรู้สึกแบบนี้แม้ว่าจะผ่านมาเกือบ 30ปีแล้วก็ตามก็ยังคงให้ความรู้สึกที่ดี อย่างน้อยแม่ค้าในตลาดก็จะจำผมได้ ทุกครั้งที่ตามแม่ไปตลาดก็จะเรียกหรือแซว "อ้าววันนี้ไม่ขโมยมะนาวอีกเหรอ" หรือ"นั่นลูกพี่หยิบไข่เป็ดใส่ตระกร้าแล้ว" (เดี๋ยวนี้คุณผู้หญิงหิ้วตระกร้าไปตลาดคงเชย) อีกสิ่งหนึ่งคือร้านกาแฟในตลาด ที่มีอยู่ร้านเดียว หอมมากมันหอมจริงๆ ก็คงอย่างที่คุณเบิ้ลบอกล่ะมั้งครับว่า เวลาซื้อกาแฟต้องใส่กระป๋องนมแล้วผูกเชือกปอ
มันให้อารมณ์ร่วมเหลือเกิน แต่มาวันนี้ถ้าผมกลับไปลพบุรี เงียบครับเงียบไม่มีอีกแล้วบรรยากาศแบบนั้นแม้แต่ร้านกาแฟที่ผมใฝ่ฝันจะได้นั่งกิน ก็ไม่เหลือให้เห็นแล้ว คนไทยมีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งคือ ชอบความสนุกสนานเฮฮาสังเกตุง่าย เวลามีตลาดนัดคนจะชอบมาเดินดูเลือกซื้อของเต็มไปหมด แต่พอจัดทำร้านถาวรเป็นตลาดอย่างดี เจ๊ง ครับ เจ๊ง คนไม่มาเดินจากการสังเกตุน่ะครับ เดี๋ยวนี้มีห้างแล้วยิ่งไปใหญ่เลยแอร์เย็น(เชื้อโรคหมุนเวียน) เอาอกเอาใจลูกค้าจัดสินค้าเหมือนตลาดนัด ตลาดสดต่างๆก็เลยล้มระเนระนาด เหมือนตลาดเตาปูนของคุณเบิ้ล ว่างๆแวะไปเยี่มหน่อยนะครับ เอ่อว่าแต่ว่าคุณเบิ้ลชอบลิเกคณะอะไรครับ
โดยคุณ : อดิศร - [ 13 ก.ย. 2002 , 11:28:36 น.]

ตอบ
อันนี้ต้องทำใจครับ ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตลาดสด ร้านกาแฟก็เริ่มจะหายไปจากสายตาเรา

กาแฟแบบเก่า ก็ขึ้นห้างหมดแล้วนะ ใช้ชื่อว่ากาแฟโบราณ ผมก็เคยกินที่ฟอจูน พอใช้ได้ ...

ส่วนเรื่องลิเกไม่สันทัดเลยครับ อิอิ ... แต่เข้าใจเลยนะ เวลายายแก่เขาชอบนิกรร้องลิเก ทำให้ผมนึกถึงยายขึ้นมาทันที ว่า คนแก่นี่ ชอบลิเกจริงๆ เป็นชีวิตจิตใจ...
โดยคุณ : ble3d - ICQ : 21526438 - [ 13 ก.ย. 2002 , 12:24:20 น.]

ตอบ
อุอุอุ....... รำลึกความหลังกันใหญ่ .... อิอิอิ
โดยคุณ : เกโกะ - [ 13 ก.ย. 2002 , 16:44:23 น.]

ตอบ
จะรำลึกบ้างเดี๋ยวจะหาว่าแก่ เอาเป็นว่าขอบคุณทั้ง 2 ท่านที่มาช่วยรำลึกแทนละกันครับ
โดยคุณ : นักอ่านชั้นอะ - [ 13 ก.ย. 2002 , 16:57:05 น.]

ตอบ
ว้ามีแต่คนแก่ไม่เหมาะสำหรับวัยสะรุ่นอย่างเราเลยเดี๋ยวนี้เขาต้องกินกาแฟ สะตาบาค แก้วล่ะเป็นร้อยเสียดายตังจังแต่ทำไงได้ก็ในเมื่อใจเป็นวัยสะรุ่น แต่สังขาร !!!!!! เฮ้ออย่าไปกล่าว ถึงเลย
โดยคุณ : pui - [ 14 ก.ย. 2002 , 0:02:03 น.]

ตอบ
อิอิ ผมชอบนะ พวกวัยรุ่น แต่อ่านสามเกลอ ถือว่าเป็นคนที่ไม่หลงในสิ่งใหม่ๆ ยอมอ่านนิยายที่แต่งมาเป็นเวลาห้าสิบปีที่แล้วได้

ส่วนผมนี่ยอมรับว่าแก่แล้วแก่เลย อ่านสามเกลอแล้วชื่นใจ เหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
โดยคุณ : ble3d - ICQ : 21526438 - [ 14 ก.ย. 2002 , 0:06:08 น.]

ตอบ
ร้านกาแฟแบบโบราณนี้ ตามต่างจังหวัดก็ยังพอมีให้เห็น
ยังคงเป็นที่ชุมนุมสังสรรค์ของเหล่าสภากาแฟอยู่
.ส่วนใหญ่ก็อยู่ในละแวกชุมชนใกล้ตลาดสด
แต่ไม่รู้ว่าที่ยังมีร้านแบบเก่าอยู่นี่ เพราะเป็นจังหวัดหรือชุมชนเล็กๆ หรือเปล่านะ

ส่วนชาวกทม. คงจะหาทานยากหน่อย แต่ถ้าใครอยากได้บรรยากาศแบบวันเก่าๆ
ก็ลองไปหาซื้อแก้วกาแฟ พวงกาแฟจากจตุจักรมาใช้
ร้านอยู่ในซอยที่ขายของตกแต่งบ้าน ที่ติดริมถนนพหลฯน่ะ
โดยคุณ : born - [ 15 ก.ย. 2002 , 2:11:27 น.]

ตอบ
ขอบกระป๋องมันไม่บาดปากหรือครับ เพราะปกติที่ผมสังเกตกระป๋องนมข้นที่เปิดแล้วขอบตรงปากกระป๋องมักจะคม หรือว่าเขาใช้หลอดดูดกาแฟกันครับ
โดยคุณ : impossible_man - [ 19 ก.ย. 2002 , 20:12:51 น.]

ตอบ
แหม เขาไม่ยกกระป๋องขึ้นซดหรอกคุณ IM แค่ขนส่งจากร้านมาที่บ้านเท่านั้นแหละ ถ้าจะให้ครบก็ต้อง เอาเชือกกล้วยผูกน้ำแข็งมาหนึ่งมือ(ใช่ไหม) (ต้องขอไล่ดูก่อน หนึ่งซอง มีสิบมือ หนึ่งมือมีสี่ก้อน) หนึ่งก้อนครับ และยังมีก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ห่อด้วยใบตองอีก อูย เล่าแล้วหิวแฮะ ได้กลิ่นติดจมูกขึ้นมาทันทีเลย ส่วนกระป๋องน่ะ ผมว่าเขาไม่ได้ล้างนา คงชงใส่ไปเลย ถือว่าเป็นการล้างไปด้วยในตัวไงครับ
โดยคุณ : ป้อมดอนเมือง - [ 20 ก.ย. 2002 , 20:27:08 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.