อ่านเล่นๆอย่าคิดมาก
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



อ่านเล่นๆอย่าคิดมาก
ตีความตุลากวน-บุญชิต ฟักมี : ความน่าจะโดน

Friday, August 30, 2002

โดยMGR ONLINE
ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง


ก. เขียนหนังสือยังไงให้โดน

ฉันเป็นนักเขียนคนหนึ่ง ฉันมีพ่อเป็นนักหนังสือ พิมพ์ชื่อดัง ฉันชอบใช้คำแทนตัวของฉันว่าฉัน ฉันไม่ชอบใช้คำว่าผม เพราะฉันไม่มีผม พ่อฉันก็ไม่มี

ฉันชอบเขียนหนังสือ พ่อฉันเตือนฉันแต่เมื่อเด็กแล้วว่า อย่าทะลึ่งเขียนหนังสือเล่น ระวังมันจะติดแล้วจะยุ่ง แต่ฉันไม่เชื่อพ่อ เพราะคุณครูที่โรงเรียนบอกให้ฉันท่องว่า ยาเสพติดได้แก่ เหล้า บุหรี่ ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาขยัน ไม่เห็นมียาเสพติดชื่อเขียนหนังสือเลย แล้วฉันจะติดได้อย่างไร ?

ฉันมีคนรักเป็นผู้หญิง เพราะฉันเป็นผู้ชาย แต่คนรักของฉันเป็นผู้หญิงประหลาด ที่ประหลาดคือ เธอ สามารถเยี่ยมหน้าไปโผล่ตามทีวีในเคหสถานของชาวบ้านได้ทั่วทุกหัวระแหงที่กำลังส่งคลื่นวิทยุโทรทัศน์จะสามารถทะลุทะลวงแทรกสอดไปได้ถึง คนเขาเรียกคนรักของฉันว่า "ดารา" ดังนั้น ฉันจึงไม่ได้มีอาชีพเป็นเพียง นักเขียน แต่ฉันมีอาชีพเป็นคนรักของดาราอีกด้วย

ฉันเป็นนักเขียน วันหนึ่งหนังสือพิมพ์ประกาศว่า หนังสือเล่มหนึ่งที่ฉันเขียน ก็ไอ้เล่มที่ปกสีเทาๆ หน้าตา น่าเบื่อนั่นแหละ ได้รับรางวัล "ดูข้าว" ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ไอ้เรื่องข้าวๆ แกงๆ มันมาเกี่ยวอะไรกับการเขียนหนังสือของฉัน เว้นแต่เคยได้ยินว่ามีคนไม่ชอบหนังสือ ของฉัน ประกาศจะฉีกกระดาษหนังสือไปทำฟืนหุงข้าวก็เท่านั้น

ฉันก็โดน โดน โดน จากวันที่ได้ "ดูข้าว" เป็นต้นมา ถ้าฉันรู้ว่า "ดูข้าว" แล้วคนอื่นเขาไม่ชอบใจ หรือเป็น ทุกข์ ฉันคงไม่ดูมัน

ฉันถูกเขาบอกว่า เป็นอาชญากรร้ายทำลายภาษาไทยอันเจริญยิ่งยั่งยืนนานมากว่าเจ็ดร้อยยี่สิบปีขึ้นไป ฉันเขียนหนังสือแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง ซึ่งอันนี้ฉันแปลกใจพอประมาณอยู่ ถ้าเขาไม่รู้เรื่อง แล้วทำไมจึงรู้ว่าฉันเขียนหนังสืออย่างไร หรือบางคนบอกว่า ฉันไม่ควรได้ "ดูข้าว" เพราะฉันมีอาชีพเป็นคนรักของดารา หรือบ้างก็ว่า เพราะฉันมีโอกาสได้เกิดมาสูดลมหายใจบนโลกใบนี้น้อยเกินไป คนได้ "ดูข้าว" ควรจะเป็นผู้ที่เกิดมาสูดลมหายใจของโลกใบนี้ไปเน่าในปอด ลามไปสมองให้มากๆ

ฉันเชื่อว่าเป็นความผิดของพ่อของฉัน ที่ตั้งชื่อฉันให้มีความหมายประมาณว่า "การฆ่าชิงบัลลังก์" ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้ไปฆ่าและชิงบัลลังก์ใครเลยนะ ทำไมจึงต้องเป็นทุกข์เป็นร้อนกับการได้ "ดูข้าว" ของฉันด้วย อย่างไรก็ตาม พ่อฉันเฉลยว่า ชื่อของฉันแปลว่า "หนังสือพิมพ์" ในภาษารัสเซีย ไม่เกี่ยวกับการฆ่าๆ แกงๆ ใครทั้งสิ้น



ข. เขียนหนังสืออย่างไรไม่ให้โดน



อย่างที่บอก ถ้าฉันรู้ว่าการได้ดูข้าวของฉัน คือทุกข์มหันต์ของหลายๆ คน คนที่เชื่อว่าเขาดีกว่าคนอื่นเพียงเพราะได้สูดลมเน่าบนโลกนานกว่าคนที่อุตส่าห์บริหารรอยหยักในสมองแทบตาย เพื่อจะอ่านหนังสือของฉันแล้วเป็นทุกข์เช่นนั้นฉันคงไม่อยากดูหรอก ข้าวเขิ้ว

ต่อไปภายภาคหน้า ไม่อยากให้คนอื่นทุกข์เพราะการได้ "ดูข้าว" แล้วละก้อ คนที่ได้ดูข้าวควรจะ...

คนที่ได้ "ดูข้าว" ไม่ควรมีพ่อเป็นนักหนังสือพิมพ์ ชื่อดัง เพราะคนอื่นจะเป็นทุกข์

คนที่ได้ "ดูข้าว" ไม่ควรหัวโล้น เพราะคนอื่นจะเป็น ทุกข์

คนที่ได้ "ดูข้าว" ไม่ควรจะมีอาชีพเป็น "คนรักของดารา" เพราะคนอื่นจะเป็นทุกข์

คนที่ได้ "ดูข้าว" ควรจะเขียนหนังสือให้อ่านง่ายๆ เข้าไว้ยิ่งดี เพราะคนอื่นจะได้เป็นสุข

คนที่ได้ "ดูข้าว" ควรจะเขียนหนังสือวิพากษ์ปัญหา ของคนด้อยโอกาสในสังคม ถึงมันจะช่วยอะไรไม่ได้แต่ก็เท่ ฟังดูห่วงใยสังคมดี และคนอื่นจะได้เป็นสุข

คนที่ได้ "ดูข้าว" ควรจะได้สูดลมหายใจบนโลกนี้นานกว่าคนอื่น เพราะคนสูดลมหายใจมาน้อยๆ สมองยังสดใสอยู่ ไม่เน่าดำเหม็น และคนอื่นจะได้เป็นสุข

คนที่ได้ "ดูข้าว" ควรจะได้ไปอ่านโลกกว้างรับรู้ถึงชีวิตอันสำมะหาอันใดของเมืองในอุโมง ในยามที่เกิด อุทกภัยและมีแม่มดผู้วิปริตอยู่บนตึก



* หมายเหตุจากบุญชิตฯ * ดูข้าว (DUEKOW) หรือ Do yoU idEntified between Kwai Or Writer ? เป็นรางวัลที่คนในประเทศที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือแกมใจแคบแห่งหนึ่ง เชื่อว่า ผู้ที่ได้ "ดูข้าว" คือนักเขียนที่ดียิ่งเหนือกว่านักเขียนอื่นใดในบ้านเมืองนี้ ควรค่าแก่การ เคารพสักการะ ทำให้เมื่อนักเขียนที่เขาคิดเอาเองว่า ยังไม่สมควรได้ "ดูข้าว" เกิดจะได้ "ดูข้าว" ขึ้นมา ก็เกิดอาการร้อนอาสน (และลูกกะตา ?) อาละวาดกันอึ่งมี่ทั่วเว็บบอร์ดชื่อดังในขณะนี้


โดยคุณ : ละม่อม - [ 31 ส.ค. 2002 , 23:35:50 น. ]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.