ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ ตุณเตยย้ายบ้านกันมั่งป่าวครับ? ยังจำบ้านหลังแรกของคุณได้มั้ยครับ.....
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ ตุณเตยย้ายบ้านกันมั่งป่าวครับ? ยังจำบ้านหลังแรกของคุณได้มั้ยครับ.....
วันนี้ได้มีโอกาสคุยกะสาวสวยเสียงหวานบางคน เป็นเวลาพอสมควร ทำให้เกิดแรงบันดาลใจสำหรับกระทู้นี้......
คุณเคยย้ายบ้านกันมั่งมั้ยครับ ในชีวิตนี้? คำถามนี้ถ้าย้อนถามมาที่ผม ก็คงได้คำตอบว่า เคยซิ.. ผมย้ายบ้านมาครั้งนึง ยังไม่รวมการไปอาศัยตามบ้านญาติๆ หรือหอพัก ในบางช่วงของชีวิต
บ้านหลังแรกของผม อยู่ในกรุงเทพฯ นี่เอง ตึกแถว 2 ชั้นเก่าๆ ในซอยส่วนบุคคลแคบๆ ชั้นล่างเป็นโรงกลึงเล็กๆ สกปรกๆ เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ..น้ำมัน...และความทรงจำ....
ผมใช้ชีวิตตั้งแต่เกิด จนถึงอายุ 11 ปีที่นี่ บ้านหลังแรกในชีวิตของผม ตึกแถว 2 ชั้น 2 ห้องที่ตีทะลุถึงกัน ด้วยฝีมือคนในบ้านเอง กำแพงทะลุเกือบจะเหมือนในการ์ตูน เวลาที่ตัวการ์ตูนเดินทะลุกำแพงที่ไหนซักแห่ง.....
หมาตัวแรกของผมก็อยู่ที่นี่ มันชื่อเจ้านิล ไม่ต้องบอกคุณก็คงพอรู้นะ ว่าชื่อของมันมาจากสีขนของมัน..เจ้านิลเป็นหมาแก่แล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมรู้จักมัน ..ความทรงจำของผมกับมันเลยน้อยลง แปรผันตามความชราของมัน 1 ใน ความทรงจำนั้นก็คือในวันที่ไฟดับวันนึงของปีนั้น...ผมเดินอีท่าไหนไม่รู้ ไปเหยียบตัวมันเข้า แล้วมันก็ตอบแทนด้วยการกัดเข้าที่ขาผมเต็มแรงๆ....
ครั้งแรกในชีวิตที่ถูกหมากัด และความทรมาณหลังจากนั้นอีกเป็นอาทิตย์ๆ...แต่ในความทรงจำอันนั้นก็ถูกภาพของความทรงจำอีกอันแทรกเข้ามา.....หมาแก่ตัวนึง นั่งอยู่ข้างๆเด็กผู้ชายคนนึง กระดิกหางแผ่วเบา..สายตาจ้องมองเด็กคนนั้น ผมไม่รู้หรอกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมรู้สึกได้ว่า มันกำลังเสียใจมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตมัน.......
ถนนในซอยผม ไม่ค่อยดีนัก เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะเป็นซอยส่วนบุคคล หลวงเค้าเลยไม่สามารถจะมาปรับปรุงอะไรให้ได้ ....ลองนึกภาพตามซิครับ ซอยๆนึง เมื่อคุณมองจากปากซอย ข้างซ้ายมือของคุณ ตั้งแต่ต้นซอยถึงกลางซอย เป็นแนวกำแพงยาวเหยียดของบ้านเจ้าของซอย....ขวามือของคุณเป็นดงตึกแถว 2 ชั้นเก่าๆ เรียงรายไปสุดสายตา หลังที่ 2 ที่ 3 จากปากซอยนั่นหละครับ บ้านผมเอง....
ท้ายซอย เป็นที่ๆผมไม่ค่อยได้เข้าไปนัก นัยว่าแม่ชอบเตือนเสมอๆ ว่ามีแต่เด็กเกเรนะลูก อย่าเข้าไป แต่ทำไงได้ครับ ก็ท้ายซอยเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ ที่ไม่ได้ขายแต่เพียงกาแฟนี่นา ยังมีขนมนมเนย สารพัด รวมไปถึงน้ำอัดลมสารพัดยี่ห้อ รอผมอยู่หนะ.......ผมเคยถูกเด็กเกเรแกล้งเอาครั้งนึง ตอนเดินไปซื้ออะไรซักอย่าง ที่ร้านกาแฟนั้น มันดึงแขนผมไม่ยอมให้กลับบ้าน ปากก็พร่ำแต่ว่า....รีบไปไหนเล่าๆ ผมคิดว่ามันน่าจะเข้าใจผิดอะไรซักอย่าง...ผมเป็นผู้ชายนา..ถึงจะหน้าตาดีกว่าเด็กผู้ชายทั่วไปก็เหอะ (อิอิ) ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้นใครมาช่วยผม....รู้แต่ว่าฉับพลันที่ผมสะบัดแขนหลุดจากการเกาะกุมของมันได้ ผมก็วิ่งอ้าวกลับบ้านทันที.....
ฟุตบอลกับผม ก็เริ่มขึ้นที่นี่ กลางดึกคืนนึงของเดือนมิย.ปี 1982 พ่อผมปลุกผมจากที่นอน เพื่อตื่นมาดูฟุตบอลโลก ระหว่าง บราซิล กับสหภาพโซเวียต นัดนั้นปราซิลชนะ 2-1 ....ผมมีลูกฟุตบอลเป็นของตัวเอง 1 ลูก ได้มาจากการเก็บเงินค่าขนมวันละ 1 บาท ตลอด 1 ปีเต็ม แต่เอาเข้าจริง วันที่ผมไปซื้อที่ร้านขายเครื่องกีฬา ผมไม่ได้ใช้เงินเก็บตัวเองซักบาท เพราะมันเป็นวันตรุษจีนพอดี....ผมเอามันไปโรงเรียนด้วยทุกวัน.แต่ จุ๊ๆ ต้องแอบแม่ผมนะ แกไม่ชอบที่ผมเล่นบอลหนะ ผมต้องเอามันไปซ่อนไว้ใกล้ๆกะประตูเหล็กหน้าบ้าน กินข้าวเสร็จ ถึงเวลาออกจากบ้านก็วิ่งตื๋อไปหน้าบ้าน แล้วหยิบออกไป โดยไม่หันหลังกลับ...
ตอนป.5 ผมเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ผทเล่นเป็นโกล์..เราได้ไปแข่งบอลกรมพละรุ่นจิ๋ว 1 ครั้ง ทั้งสิ้น 3 นัด เพราะเราตกรอบแรก แต่ผมได้เล่นแค่นัดเดียว....ชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนตอนประถมของผม จบลงตอนที่ผมเอาเสื้อกางเกงฟุตบอลกลับมาซักที่บ้าน แล้วแม่มาเห็นเข้า แม่ให้เอาทุกอย่างไปคืน...แล้วไม่ให้ไปเล่นอีก
ผมเคยถามแม่ เมื่อวันเวลาผ่านพ้นมาเนิ่นนานปล้ว...จากวันนั้น ว่าเพราะอะไร แม่ไม่มีคำตอบให้ผม....ช่างมันเถอะ ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้วหละ ตอนนี้
ความทรงจำกับบ้านหลังแรกของผม....ไม่รู้ซิ มันคงไม่มีจุดสิ้นสุด แม้ในความเป็นจริง วันเวลาเหล่านั้นจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม...แล้วคุณหละ จำบ้านหลังแรกของคุณกันได้มั้ยครับ?
โดยคุณ : เกลียมัว - [ 8 มี.ค. 2002 , 1:20:03 น. ]

ตอบ
หลังแรกก็จำได้เยอะเลยล่ะ ตามมาด้วยหลังที่สอง...ก็พอจำได้ หลังที่สาม อืม จำแปลนได้เลย หลังที่สี่ กะสี่ห้า ก็ยังจำได้
ส่วนหก-ปัจจุบันเนี่ย ก็...อืม
ติดไว้ก่อนนะ แบบหลายบ้านมากเลย ตอนเด็กๆ ย้ายบ้านบ่อยมากกกกก...ตอนโตยิ่งบ่อยกว่า เข้ามาเรียนกทม. อยู่กะพี่คนโน้นที คนนี้ที
่ก่อนอื่นขอไปนับก่อน ว่าย้ายมากี่หลังแล้ว ...อิอิ
โดยคุณ : ^_^ ...Born - [ 8 มี.ค. 2002 , 1:40:24 น.]

ตอบ
อิ อิ ผมเองก็ร่อนเร่ไม่น้อยกว่าคนข้างบนหรอกครับ
อิ อิ เยอะกว่าอีกครับ สงสัยชีพจรลงเท้า ขนาดเดินไม่ได้แล้วยังย้ายบ้านบ่อยเลยครับ
โดยคุณ : ไก่ - [ 8 มี.ค. 2002 , 2:27:05 น.]

ตอบ
ย้ายมาหนนะ แต่ขอไปเรียบเรียงก่อน รู้สึกวันนี้คุณเกลียมีอารมณ์สุนทรีย์มากทีเดียว
โดยคุณ : samgler-aholic - [ 8 มี.ค. 2002 , 3:36:13 น.]

ตอบ
ง่า ว่าแต่"เตย"เป็นครายง่ะ เค้าย้ายแล้วทำไมมะไปถามเค้าล่ะ หุหุหุ
โดยคุณ : samgler-aholic - [ 8 มี.ค. 2002 , 3:38:34 น.]

ตอบ
ถ้าพูดถึงคน กทม. แล้ว เรื่องการย้ายบ้าน คงเป็นเรื่องธรรมดามั้งครับ ผมเองเกิดที่ กทม. นี่ ย้ายบ้านตั้งแต่เด็กๆ ไปรอบเมืองแล้ว นับได้ 4 - 5 หน ทั้งย้ายไปทั้งบ้าน หรือย้ายแต่แต่เอง

เคยไปเล่าให้เพื่อนที่อยู่ ตจว. ฟัง เขาทำหน้างงๆ บอกมาว่า ย้ายอะไรกันบ่อยนักวะ เพราะบ้านเขา เกิดตรงไหน ก็อยู่มันไปจนตาย ยกที่ยกบ้านสืบต่อลูกหลานกันต่อไป ไม่คิดจะย้ายไปไหนทั้งสิ้น ถ้าย้ายก็คือเป็นเรื่องแปลกๆ หรือมีปัญหาอะไรสักอย่าง อิอิ เป็นงั้นไป
โดยคุณ : ble3d - ICQ : 21526438 - [ 8 มี.ค. 2002 , 9:29:56 น.]

ตอบ
มาเชียร์คนตั้งกระทู้ค่า อิอิ
โดยคุณ : นุช - [ 8 มี.ค. 2002 , 19:39:12 น.]

ตอบ
อิอิ ส่วนตัวๆ รถตู้ยังไม่มาซะทีน้อ เมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยวเนี่ย........
โดยคุณ : เกลียมัว - [ 8 มี.ค. 2002 , 19:40:16 น.]

ตอบ
ง่า...คุณเกลียแกครึ้มอารายน้อ...
ป๋มยังมะเคยย้ายบ้านนิ ย้ายตะที่ซุกหัวนอน เยอะเหมือนกานแหละ ตะแค่ย้ายเฉพาะสมบัติส่วนตัวก็เยอะแย้ว ถ้าย้ายบ้านสักครั้ง คงม่ายหวายฮับ แค่นึกก็เหนื่อยแย้ว
ว่าตะแกกาลังจาหนีชมรมนกฮูกปายเที่ยวหนายน้อ
โดยคุณ : ประชา - [ 8 มี.ค. 2002 , 20:19:19 น.]

ตอบ
กะลังจะไปตราดอะคุณประชา อยู่ระหว่างรอรถตู้ที่บอกว่าจะมารับตั้งกะ 6 โมงเย็นจนป่านนี้ก็ยังมิมาเลยน้อ ไม่รู้คนขับไปหลงทางอยู่ที่ไหน.....ว่างๆก็แวะเข้าแชทไปมั่งดิ เมื่อวานก็ไม่ยอมเข้ามา...
โดยคุณ : เกลียมัว - [ 8 มี.ค. 2002 , 20:24:54 น.]

ตอบ
ง่า.....ห้องแชทอานใหม่นี่ช้ายมะเป็นฮับ มะวานเน็ทที่รร.ก็เชื่อมกะห้องแชทมะด้ายเลยอด เที่ยวห้ายหนุกนาฮับ ระวังฝนหลงฤดูด้วยล่า
และก็ฝากซาหวัดดีอาซ้อด้วยฮับ.....
โดยคุณ : ประชา - [ 8 มี.ค. 2002 , 20:32:44 น.]

ตอบ
มาอธิบายเน้อประชา (รถยังมะมาซะทีน้อ) ก็คลิกเข้าห้องแชท จากหน้ากระดานสนทนาตามปกตินะ มันจะขึ้นหน้าต่าง window สีเทาๆ เหมือนจะให้ดาวน์โหลดอะไรซักอย่าง ให้เราคลิก yes (หรือ ok อะไรนี่แหละ) ไป เสร็จปุ๊ปมันจะขึ้นกรอบสี่เหลี่ยมมาก็จัดการใส่ชื่อซะ แล้วก็คลิกตรง connect now ซักพักมันจะเข้าไปในห้องแชท ดูทางขวามือล่างอีกทีจะมีกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ เป็นชื่อห้องก็ไปเปลี่ยนเป็นห้องสามเกลอซะ เป็นอันสลบ เอ้ย เรียบร้อยอะ ขอให้โชคดีมีคนคุยเน้อ ถ้ายังไม่ได้ไปในเวลาอันใกล้นี้ จะมาใหม่ อิอิ
โดยคุณ : เกลียมัว - [ 8 มี.ค. 2002 , 21:07:22 น.]

ตอบ
เข้าจายแล้วฮับ ตะกี้ปายลองมาแล้ ขอบคุณฮับที่ยังอุตส่าห์มาบอก
ปายๆมาๆนี่จากลายเป็นกระทู้ส่งคุณเกลียไปนา เพื่อมะให้หลุดconceptว่าเรื่องย้ายบ้านกันต่อเลยฮับ
ว่าตะคุณเกลีบจำเวลานัดมะผิดนาฮับ...มันจาเลทนานปายหน่อยมั้ยเนี่ย....
โดยคุณ : ประชา - [ 8 มี.ค. 2002 , 21:23:08 น.]

ตอบ
คุณเกลียไปแย้วมัง ปล่อยให้ตาประชา คุยคนเดียว อิอิ ก้ากๆๆๆ
โดยคุณ : คุณท้าวจอมแก่น - [ 8 มี.ค. 2002 , 21:31:21 น.]

ตอบ
อิอิ ยางไม่ไปฮะคุณท้าว รถยังไม่มา ว่าแต่พวกเราชักจะตอบผิดวัตถุประสงค์กระทู้ผมไปแย้วนา ตั้งแต่นี้ขอประกาศห้ามคุยกันในกระทู้นี้อีก อย่างเด็ดขาด 555
เอาเรื่องย้ายบ้านอย่างเดียวนิ!
โดยคุณ : เกลียมัว - [ 8 มี.ค. 2002 , 21:36:03 น.]

ตอบ
เกิดตึกแถว (เกิดตึกแถว)
โดยคุณ : บท - [ 8 มี.ค. 2002 , 21:51:39 น.]

ตอบ
เขียนได้อารมณ์ดีครับ

อ่านแล้วมีความรู้สึกว่าคุณเกลียมีแรงดึงดูดกับผู้ชายด้วยกัน (มีจับมือถือแขนกันด้วย) อิอิ

อ้อ ใครรู้บ้างว่า ตัวหนังสือญี่ปุ่นในกระทู้โดเรมอน เขียนว่าอะไรครับ ใช่ขนมแป้งทอดอะเป่า
โดยคุณ : Jummai - [ 9 มี.ค. 2002 , 0:41:30 น.]

ตอบ
ง่ะ มึน
เกิดตึกแถว คล้ายๆกะเกิดสำเพ็ง อิอิ
โดยคุณ : บ.ท. - [ 9 มี.ค. 2002 , 1:49:06 น.]

ตอบ
เห็นจำนวนผู้ตอบกระทู้ถึง 16 รายในชั่วข้ามคืน
ทีแรกให้นึกดีใจแทนคนตั้งกระทู้เป็นยิ่งนัก
รีบคลิ๊กเข้ามาดู
อิอิ...ที่แท้ก็
มีการเกณฑ์คนในครอบครัวมาช่วยกันปั่นกระทู้นี่เอง
เรื่องรถต้ง รถตู้อีก
แจ้งข้อหาดีกว่า
...เจ้านายเว็บ...เชิญทางนี้หน่อยขอรับ
มีสมาชิกตั้งกระทู้เอง ปั่นกระทู้เองด้วย
เอาข้อหาไหนดีขอรับ

..แต่เอ...คุณเกลียไปเขียนดึงดูดอารมณ์อะไรแกซะแล้วเนี่ย
จะยกฟ้องไม๊เนี่ย...555
โดยคุณ : ^_^... ผู้หวังดีฝากมาแจ้งความ - [ 9 มี.ค. 2002 , 2:17:44 น.]

ตอบ
บ้านหลังแรกของเราเป็นบ้านพักครูหลังไม้สีแดงเรียงกัน 3-4 หลังอยู่ติดสนามบอลของโรงเรียน ข้างสนามบอลเป็นแม่น้ำท่าจีน ถัดจากสนามบอลเป็นวัด หลังบ้านเป็นคลองส่งน้ำเข้าสวนถัดจากสวนเป็นนาข้าว (โตมาถึงได้เสียดายว่าเป็นที่ๆน่าอยู่มากกไม่น่าย้ายเลย) จะมาตลาดแต่ละทีต้องซ้อนมอร์เตอร์ไซด์คันสีแดงของพ่อมาข้ามสะพานโค้งที่สมัยเด็กๆกลัวพ่อขี่ไม่ขึ้นแล้วตกลงมามากเวลาข้ามเลยต้องหลับตาปี๋ ขากลับบางทีต้องผ่านป่าช้าของวัด แต่ไม่ค่อยกลัวเท่าไรเพราะถ้าพูดถึงวัด ก็คิดถึงแต่งานวัดสนุกๆ อย่างเช่น เวลาที่วัดมีงานจะมีหนังกลางแปลงเราก็จะกางเตียงผ้าใบดูหน้าบ้านได้เลย หรือบางทีถ้าเค้าเปลี่ยนที่ฉายก็จะเอาเสื่อไปจองตั้งแต่6โมงเย็นนั่งๆนอนๆรอดูหนัง ซื้อขนมถังแตก(ที่นู่นเรียกว่าขนมตับควาย) หรือถั่วต้มกินรอไปเรื่อยๆ เวลาเทศกาลลอยกระทงพวกครูจะไปช่วยทำกระทงที่วัดเป็นร้อยๆ เพื่อขายหาเงินเข้าวัด เวลามีงานศพ งานบวช เราก็จะตามแม่ไปช่วยทำกับข้าวที่โรงอาหารของวัด เช่นปอกกระเทียมล้างผักล้างจาน แล้วก็แอบวิ่งเล่นไปมากับเพื่อนๆ วันธรรมดาถ้าเบื่อข้าวก็นั่งรอเรือก๋วยเตี๋ยวยายเภาที่ท่าน้ำ ที่บ้านก็มีหมาเปลี่ยนหน้าสม่ำเสมอเพราะอยู่ติดกับวัด มีหมามาเรื่อยๆ แต่ที่จำได้และมีรูปด้วยเป็นหมาตัวเมียชื่อซีต้า อยู่กันมานานจู่ๆก็หายไปจากความทรงจำได้ไงไม่รู้ สงสัยเพราะซีต้าไม่เคยกัดเจ้าของมั้ง.. แต่ที่จำได้แม่นคือหมาฝูงสุดท้ายที่เคยเลี้ยง แรกเริ่มเดิมทีมาจากแม่หมาท้องแก่หลงมาอยู่ด้วยไปๆมาๆก็คลอดลูก ตอนหน้าหนาว ออกมา 4-5 ตัว เป็นหมาไทยธรรมดา เลี้ยงอยู่ตรงพุ่มต้นมะดัน เวลาอากาศหนาวลูกหมาก็ร้องอิ๋งๆ เราก็จะไปนั่งกอดลูกหมาให้มันอุ่น พอมันโตขึ้นพ่อก็เอาไปปล่อยวัดไกลๆ เหลือไว้ตัวเดียวจำได้ว่ามานั่งร้องไห้กับน้องสาวตรงคลองหลังบ้าน เสียใจมากโกรธพ่อว่าใจร้าย ตอนหลังพ่อถึงบอกว่าเราจะย้ายบ้านแล้วเอาเค้ามาด้วยไม่ได้ จะเอาไปได้ตัวเดียว แต่ว่าหลังจากนั้นไม่ถึงเดือน ตัวเดียวที่เหลือก็ถูกคนข้างบ้านถอยรถทับตาย เราจะได้เลยว่าได้ยินเสียงร้องแล้วก็วิ่งออกไปดูเห็นมันถูกทับ ตอนนั้นไม่มีใครอยู่บ้านเลย เราได้แต่อุ้มมันออกมาแล้วก็ร้องไห้ เพราะมันชักไม่หยุด เรากลัวมันจะตายเลยเอาไปวางบนสังกะสีแล้วมันก็เลือดออกจากปากค่อยๆนิ่งไป ทั้งๆที่ตายังเปิดอยู่ จำได้ว่าเราร้องไห้บอกให้มันรอพ่อก่อนเดี๋ยวเราจะพาไปหาหมอ แต่พ่อก็บอกว่ามันตายไปซะแล้ว เราฝังมันไว้ตรงต้นฝรั่งหน้าบ้าน บอกมันว่าเอาไว้ตามไปที่บ้านใหม่นะ ไม่รู้ว่ามันตามมาหรือเปล่านะ เพราะพอมาอยู่บ้านใหม่เลี้ยงแต่แมวจ๊ะ(มาเองอีกตามเคย) จบดีกว่า....
โดยคุณ : ละม่อม - [ 9 มี.ค. 2002 , 2:25:54 น.]

ตอบ
อะแฮ่มๆๆๆ...
เห็นเขาเขียนก็อยากเขียนมั่ง แต่พอนึกขึ้นมา
บ้านเก่าบ้านใหม่ตีกันนัวไปหมด ไม่รู้จะเขียนอันไหนก่อนดี
นึกไปนึกมา ก็มีเพลงหนึ่งผุดขึ้นมาจากความทรงจำ
เป็นเพลงที่ได้ยินได้ฟังทีไร จะรู้สึกอบอุ่นและ
ก็จะคิดถึงบ้านสมัยเด็กๆ ทุกที
ใครที่อายุ 25 อัพ คงพอจำเพลงนี้ได้
เอาเป็นว่า ขอให้อารมณ์และความรู้สึกที่ได้จากเพลงนี้ ...เป็นคำตอบสำหรับความทรงจำเกี่ยวกับบ้านเก่าก็แล้วกัน


...ความคิดล่องลอยกลับไป
ใจคิดถึงบ้านของเรา
นานเพียงไหน ยังจำบ้านเก่า
ภาพความหลังทุกวันสุขใจ

...จำร่มไม้วันแดดสดใส
โยงยอดใบลู่รับลม
บนต้นไม้มีรังนกกลมๆ
สร้างด้วยรักและความเข้าใจ

..บ้านของเราเป็นเพียงบ้านเก่าเรือนไม้
เป็นที่พักพิงสุขใจ
บ้านของเราเป็นเพียงบ้านเก่าเรือนไม้
ฉันยังจำ บ้านเก่า ไม่คลาย

...ดวงอาทิตย์ยามบ่ายส่องมา
ดูลำแสงเป็นสีทอง
บนท้องฟ้า เมฆปุยขาวเรืองรอง
แต้มด้วยรุ้งดูงามจับตา

...แมวตัวน้อยนอนขดหลับไหล
อิงอุ่นไอ แม่ของมัน
ตาหลับพริ้ม แล้วเอนหัวไปมา
สุขใดหนาจะมาทดแทน

..บ้านของเราเป็นเพียงบ้านเก่าเรือนไม้
เป็นที่พักพิงสุขใจ
บ้านของเราเป็นเพียงบ้านเก่าเรือนไม้
ทุกข์ยามใดหวนกลับบ้านเรา

...ความคิด ล่องลอยผ่านไป
เหมือนเวลาล่วงไป เพียงเมื่อวาน
มาวันนี้ ฉันคืนบ้านเก่า
อยู่ที่ไหนไม่เหมือนบ้านเรา..
บ้านของเรา...

เพลง"บ้านของเรา" ของ อ้อมกับอาร์มจ้ะ
สำหรับคนอายุ > 25ู only..อิอิ

โดยคุณ : ^_^ ...Born - [ 9 มี.ค. 2002 , 4:14:27 น.]

ตอบ
หกครั้งครับ อย่างเป็นทางการ
บ้านหลังแรก เบลอมาก เป็นบ้านเช่า อยู่ที่ตรอกสารภี(รู้จักกันไหมเนี่ย) เอาเป็นว่าจากวงเวียงใหญ่ไปวงเวียนเล็ก(ซึ่งหายไปแล้ว) จะอยู่ทางขวามือ หน้าบ้านเป็นคูเล็กๆ มีชานบ้านไว้นั่งกินข้าว(ดูจากรูป)

หลังที่สอง (น่าจะเป็นช่วงที่ย้ายจากบ้านหลังแรกไปหลังที่สาม) เป็นบ้านพักพยาบาลหลัง รพ.สมเด็จเจ้าพระยา (ฉากสำคัญหลายฉากในเรื่องสามเกลอ)

หลังที่สามอยู่ที่ถนนดาวคะนองจอมทอง มีรถเมล์สีเขียวสาย ๑๐ ผ่าน เป็นบ้านสองชั้นกระไดชันมากเลย เพราะผมต้องถัดลงมา ใช้เวลาตั้งนานกว่าจะกล้าเดินขึ้นลง

หลังที่สี่อยู่ใกล้ๆสามเกลอคาเฟ่ อยู่ในอาคารสงเคราะห์ทุ่งมหาเมฆ เป็นบ้านเทปูน ย้ำ เทปูน เพราะไม่ได้ก่ออิฐเลย ผนังแผ่นเบ้อเร่อ ยกมือเดียวได้เลย เบาโหยง ตอนนั้นใครต่อใครก็บอกว่าไกลจังเลย

หลังที่ห้า หนีสภาพการจราจรจลาจลมาจากกทม. คราวนี้มาอยู่ที่ปากเกร็ด เมื่อปี ๒๗ โอ้โฮ รถน้อยน่าดู จากบ้านมาที่ทำงานใช้เวลาแค่ สิบห้านาทีเอง แต่หลังจากนั้นไม่นาน กลายเป็นหนึ่งขั่วโมงสิบห้านาทีเลยต้องย้ายมาที่ปัจจุบันนี้แหละครับ

หลังที่หกล่าสุดอยู่ภายในแมกไม้ดอกอันหอมหวล ด้วยฝีมือของภรรยา และไม้แ_กด้วยฝีมือผม ก็คงอยู่ไปจนตายแหละครับหลังนี้ ไล่มาเลยนะครับ หันหน้าเข้าบ้าน ทางซ้ายมือ เริ่มจาก เฟื่องฟ้าหน้าบ้าน จำปี มะลิ ชมนาด ลำดวน มหาหงษ์ นมแมว เขี้ยวกระแต พุทธชาติ หลังบ้านเป็นต้นขนุน ทางขวามือ พุ่มเข็ม มะม่วง ประยงค์ กาหลง พุดสามสี ชวนชม กรรณิการ์ บุหงา โมก เทียนหยด มะกรูดหลังบ้าน
อ้อ สนามหญ้ามาเลย์ด้วย

ส่วนที่ไม่เป็นทางการ มี เชียงใหม่ ประจวบฯ เพราะเป็นที่ทำงานอ่ะครับ
โดยคุณ : ป้อมดอนเมือง - [ 10 มี.ค. 2002 , 18:53:24 น.]

ตอบ
คุณป้อมบรรยายถึงบ้าน ฟังแล้วน่าอยู่จังครับ
โดยคุณ : ไก่ - [ 11 มี.ค. 2002 , 1:33:22 น.]

ตอบ
GO GO สู้ๆค่า.....
โดยคุณ : แห้ว(เจ้าเก่า) - [ 12 มี.ค. 2002 , 15:48:02 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.