ลองมาอ่านมุขนี้กันหน่อยซีครับ..จะอมยิ้ม หรือจะก้าก?
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



ลองมาอ่านมุขนี้กันหน่อยซีครับ..จะอมยิ้ม หรือจะก้าก?
มุขต่อไปนี้อยู่ในตอน "ลิ้นกับฟัน" ซึ่งผมได้รับความกรุณาจากคุณเจี๊ยบstj เธอไปเจอที่งานสัปดาห์หนังสือฯเลยซื้อมาฝาก เป็นตอนที่สนุกสนานมากอีกตอนหนึ่ง
.................
.................
             เจ้าแห้วเดินเข้ามาในห้องพอดี ตรงมาทรุดตัวนั่งพับเพียบเรียบร้อยคอยรับใช้พวกเจ้านายของเขา ในเวลาเดียวกันนิกรก็ย่องลงมาตามคั่นบันได และเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย
             "เป็นยังไงบ้างวะ" อาเสี่ยถามยิ้ม ๆ
             นิกรหัวเราะหึ ๆ
             "หลบเข้าไปซ่อนในห้องพระเลยรอดตัว ม่ายงั้นก็คงไม่แคล้วถูกเตะ เฮ้ย-อ้ายแห้ว ไปหยิบเปลือกกล้วยหอมนั่นโยนลงกระโถนทีเถอะวะ"
             ก่อนที่เจ้าแห้วจะขยับตัวลุกขึ้น เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ ก็เดินบ่นพึมพัมเข้ามาทางหลังตึก ท่านลงไปเดินเล่นในสวนดอกไม้หลังบ้านเกือบชั่วโมงแล้ว เพื่อช่วยให้อารมณ์ของท่านคลายความเคร่งเครียดลงบ้าง เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ มัวแต่มองดู ๔ สหาย ก็เลยเหยียบเปลือกกล้วยหอมเข้าให้เต็มรัก
             ร่างอันผอมสูง ถลาร่อนเหมือนกับคนที่เริ่มหัดสะเก๊ต แล้วเจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ ก็ล้มลงก้นกระแทกพื้นห้องดังพลั่ก
             "โอ้ย"
             ๔ สหายกับเจ้าแห้วกลั้นหัวเราะแทบแย่ ไม่ต้องสงสัยว่าประมุขของบ้าน 'พัชราภรณ์' จะเดือดดาลสักเพียงใด ท่านเม้มปากแน่นทำตาปริบ ๆ เอื้อมมือหยิบเปลือกกล้วยหอมขึ้นมาดูทำตาเขียวกับ ๔ สหายแล้วกล่าวถาม
             "ใครยัดกล้วยหอม หา? อ้ายมนุษย์คนไหนกินกล้วยหอมแล้วเอาเปลือกโยนทิ้งไว้บนพื้น"
             อาเสี่ยยิ้มแห้ง ๆ
             "อ้ายแห้วครับ"
             เจ้าแห้วใจหายวาบ ร้องเอ็ดตะโร
             "อ้าว-เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง แต่เอากระดูกแขวนคอ รับประทานเล่นแบล๊คเมล์ผมยังงี้ก็แย่น่ะซีครับ ว้า-รับประทานอยู่ดี ๆ ไม่ว่าดีจะให้ผมโดนเตะแล้วไหมล่ะ"
             กิมหงวนทำหน้าตาย
             "ไม่รู้รึ ข้านั่งคุยกัน ๔ คนตั้งนานแล้วไม่เห็นมีเปลือกกล้วยหอม พอแกเดินเข้ามาและคุณอาตามเข้ามาท่านก็เหยียบเปลือกกล้วยหอมหกล้ม"
             เจ้าแห้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
             "รับประทานพาผมขึ้นรถไปสาบานที่หลวงพ่อแก้ว หรือเจ้าพ่อหลักเมืองเดี๋ยวนี้ก็ได้ครับ"
             เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ ลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย ขว้างเปลือกกล้วยหอมไปข้างบันไดขึ้นชั้นบน
             "เลวมาก เสือกทิ้งไว้ได้" แล้วท่านก็มองดูหน้านายจอมทะเล้นหลานภรรยาของท่าน "แกหรืออ้ายกร"
             "ปู้โธ่….อนิจจังทุกขังเอ๊ย ให้ผมก้าวไปนี่ธรณีสูบผมจ๊วบ ๆ ซีครับ คุณอาก็ทราบดีแล้วว่าผมกับกล้วยหอมไม่ถูกโรคกัน ทานเข้าไปทีไรจุกแอ้ด ๆ ชักดิ้นชักงอปวดท้องเหมือนกับใครบิดไส้"
             ประมุขของบ้าน 'พัชราภรณ์' ขบกรามกรอด
             "ดีละ จับไม่ได้ก็แล้วไป ถ้าจับได้ต้องขอตีกะบาลหนึ่งที" พูดจบท่านก็เดินมาที่บันไดเพื่อจะขึ้นไปสงบอารมณ์ที่ห้องส่วนตัวของท่าน
             เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก ท่านเหยียบเปลือกกล้วยหอมอันนั้นเต็มที่ ร่างของท่านถลาพรืด ล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างถนัดใจ
             "โครม อ๋อย"
             ๔ สหายและเจ้าแห้วกัดริมฝีปากตนเองจนห้อเลือด เพื่อให้เจ็บจะได้ไม่หัวเราะ ทุกคนรู้ดีว่าถ้าใครขืนหัวเราะเป็นต้องเคราะห์ร้ายอย่างแน่นอน เจ้าคุณประสิทธิ์ทำตาปริบ ๆ อารมณ์ของท่านเดือดพล่าน นิกรทำเป็นไก๋ร้องเพลงเบา ๆ
                          ดูซิดูโน่นซี
             สุรีย์ศรีกำลังยอแสง
             เหลือง - - -สลับแดง…
             เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ ตวาดแว๊ด
             "เก่าแล้วโว้ย ไม่อยากฟัง"
             เสี่ยหงวนผิวปากกลบเกลื่อนด้วยวิธีแบบศิลป์ คือปล่อยลมออกตามไรฟันมิหนำซ้ำผิวปากเพลงจีนเสียด้วย ดร.ดิเรกฮัมเพลงฝรั่งในลำคอ พลนั่งทำหน้าปูเลี่ยน ๆ เจ้าแห้วทนไม่ไหวก็หัวเราะก้ากออกมาดัง ๆ
             เท่านั้นเอง ประมุขบ้าน 'พัชราภรณ์' ก็พรวดพราดลุกขึ้นวิ่งเข้ามายกเท้าเตะและกระทืบเจ้าแห้วหลายครั้งโดยไม่ต้องนับ เจ้าแห้วร้องโอดครวญน่าสงสาร
             "โอ๊ย รับประทานตายแล้วครับ"
             เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ หอบแฮ่ก ๆ
             "จังไร…ฉิบหาย หัวเราะเยาะกูมีอย่างหรือวะ"
             เจ้าแห้วยกมือไหว้ปะหลก ๆ พูดเสียงร้องไห้
             "รับประทานกระผมพยายามกลั้นไว้แล้วขอรับ แต่ไม่สำเร็จ"
             ท่านเจ้าคุณขยับจะเตะซ้ำ แต่เจ้าแห้วรีบคลานออกไปพ้นรัศมีเท้าของท่าน เจ้าคุณประสิทธิ์ ฯ คำรามเบา ๆ แล้วเดินตุปัดตุป่องขึ้นบันไดไปชั้นบนของตัวตึก
             พอร่างของท่านลับตา ๔ สหาย ก็หัวเราะกันอย่างครื้นเครง เจ้าแห้วรีบคลานเข้าไปเก็บเปลือกกล้วยหอมโยนลงไปในกระโถนปากแตรใบหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ข้างบันได พลยกมือเขกศีรษะนิกรดังโป๊ก
             "นี่แนะ แกทีเดียวที่ก่อเรื่องยุ่งขึ้น ทั้งคุณอาและคุณพ่อต่างเหยียบเปลือกกล้วยหอมที่แกทิ้งเอาไว้"
             นิกรหัวเราะจนน้ำตาไหล
             "แหม-อีตอนท่านจะล้มเหมือนกับอีแร้งเต้นแท็ปไม่มีผิดเลย สวยมากทีเดียว" นิกรพูดพลางหัวเราะพลาง
..................
..................
เป็นไงบ้างครับ ผมอ่านทีไรน้ำหูน้ำตาไหลทุกที ถ้ายังไม่เคยอ่านละก้อไปอ่านฉบับสมบูรณ์ได้ที่เวปห้องสมุดหนังสือเก่านะครับ...
โดยคุณ : โก๋หลังวัง - [ 9 พ.ย. 2544 , 22:35:01 น. ]

ตอบ
แหมผมก้เพิ่งไปได้มาจากใต้ถุนเซ็นทรัลลาดพร้าวเมื่อสองสามวันมานี่เองครับครู นั่งรื้อเสียเมื่อไปเลย แต่คุ้มครับ สนุกมาก
โดยคุณ : ป้อมดอนเมือง - [ 9 พ.ย. 2544 , 22:52:43 น.]

ตอบ
เฉยๆ.
โดยคุณ : - [ 10 พ.ย. 2544 , 4:26:04 น.]

ตอบ
คิกๆคักๆ
โดยคุณ : คุณท้าวจอมแก่น - [ 10 พ.ย. 2544 , 8:21:11 น.]

ตอบ
55555 หัวเราะได้ 2 จังหวะเลยฮับ อาโก๋
โดยคุณ : ประชา - [ 10 พ.ย. 2544 , 16:56:29 น.]

ตอบ
หัวเราะน้ำตาไหลจริงเหยอ หรือมั่วนิ่ม อิอิ
โดยคุณ : จริงเหยอ - [ 11 พ.ย. 2544 , 1:42:07 น.]

ตอบ
5555555555555555555
โดยคุณ : non - [ 18 พ.ย. 2544 , 13:32:35 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.