มุขที่อ่านทีไรขำกลิ้งทุกที
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



มุขที่อ่านทีไรขำกลิ้งทุกที
เป็นมุขที่ผมจำได้ในพิธิสาบานตัวในการรับตำแหน่งตำรวจสันติบาลลับของคณะพรรค ๔ สหาย ผมไม่ได้อ่านซะนานเป็นสิบๆปี คุณเจี๊ยบstj เอื้อเฟื้อพิมพ์ส่งมาให้ชื่นใจจริงๆ ที่ได้อ่านอีก

..........
.........
              หลวงทรชนระย่อเดชลุกขึ้นจากเก้าอี้หมุนเดินเข้ามาสัมผัสมือกับสี่สหายและเจ้าคุณปัจจนึกฯ ทีละคน แล้วท่านก็กล่าวกับนายแพทย์หนุ่ม
              “ผมขอแสดงความยินดีเป็นส่วนตัวที่อาจารย์กับคณะได้มาช่วยราชการกรมตำรวจแผนก เอฟบีไอ.นี้ อาจารย์กับคณะได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและทางราชการทหารมามากต่อมาก ซึ่งทางราชการได้ยกย่องสดุดีอยู่เสมอ ผมหวังว่ากิจการของกองพิเศษในด้านวิทยาการคงจะเจริญขึ้นมาก”
              ดร.ดิเรกยิ้มแป้น
              กิมหงวนกล่าวขึ้นทันที
              “พวกเราจะช่วยเหลือราชการตำรวจอย่างเต็มที่เชียวครับ ท่านรองอธิบดีกรุณาบอกให้ที่ประชุมทราบด้วยซีครับว่าพวกเราทำงานโดยไม่มีเงินเดือน และยิ่งกว่านี้นายพันตำรวจตรีกิมหงวนยังจะจ่ายเงินให้กรมตำรวจอีกเดือนละหนึ่งแสนบาทเพื่อช่วยสวัสดิการตำรวจ”
              หลวงทรชนฯ หันมายิ้มให้อาเสี่ย
              “เรื่องนี้นายตำรวจผู้ใหญ่ทุกคนทราบดีครับ ผมกำลังจะเรียนให้ทราบเดี๋ยวนี้ สำหรับอาเสี่ยกับคุณพลและคุณนิกรมีตำแหน่งเป็นผู้กำกับการตำรวจสันติบาล เอฟบีไอ.”
              นิกรยืดหน้าอกขึ้นในท่าเบ่ง
              “เบ้อเริ่มเลยครับ”
              ท่านรองพยักหน้าช้า ๆ
              “ครับ เป็นตำแหน่งสำคัญมาก นอกจากพวกคุณจะทำงานในแผนกวิทยาศาสตร์ทางกองพิเศษแล้ว ยังมีหน้าที่จับกุมคนร้ายหรือผู้กระทำผิดกฎหมายได้ทุกเวลาและโอกาส สำหรับท่านอาจารย์มีตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการและท่านเจ้าคุณเป็นที่ปรึกษา”
              พลกล่าวถามอย่างนอบน้อม
              “เราทั้งหมดขึ้นตรงกับใครครับ”
              “ก็ขึ้นกับผมซีคุณ ในฐานะที่ผมเป็นผู้บังคับการสันติบาลกองพิเศษหรือหน่วย เอฟบีไอ.นี้” พูดจบหลวงทรชนฯ ก็ล้วงกระเป๋าเสื้อตรวจการของท่านหยิบกระดาษชิ้นหนึ่งออกมาส่งให้เจ้าคุณปัจจนึกฯ แล้วกล่าวว่า
              “ใต้เท้าครับ โปรดเป็นหัวหน้ากล่าวคำสาบานตัวตามระเบียบ ให้ทุกคนว่าตาม”
              เจ้าคุณปัจจนึกฯ พยักหน้ากับสี่สหาย
              “คอยว่าตามโว้ย”
              นิกรยิ้มให้พ่อตาของเขา
              “ก่อนสาบานตัว ร้องเพลงมาร์ชตำรวจเสียก่อนไม่ดีหรือครับ จิตใจของพวกเราจะได้เป็นตำรวจร้อยเปอร์เซ็นต์”
              กิมหงวนเห็นพ้องด้วย
              “จริงโว้ย กันเป็นต้นเสียงเอง”
              หลวงทรชนฯ พูดเสริมขึ้น
              “เมื่อมันลำบากนักก็อย่าพยายามร้องเลยครับ กล่าวคำสาบานตัวเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”
              สี่สหายต่างยืนตรงเตรียมกล่าวคำสาบานปฏิญาณตน เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องขยายเสียงได้หย่อนไมโครโฟนตัวใหญ่ลงมาห้อยอยู่เบื้องหน้าคณะพรรคสี่สหายซึ่งเป็นไมโครโฟนที่มีความไวมาก ส่วนลำโพงของมันอยู่ทางด้านหลังห้องประชุมรวมสองอัน เจ้าคุณปัจจนึกฯ คลี่กระดาษเขียนจดหมายสีฟ้าอ่อนฉบับนั้นออก แล้วท่านก็อ่านข้อความอันเป็นลายมือหวัดแกบรรจงสวยงามมากให้สี่สหายว่าตาม
              “กราบคุณป๋า ดวงใจของหนู”
              สี่สหายทำคอย่นพร้อม ๆ กันแล้วว่าตาม
              “กราบคุณป๋า ดวงใจของหนู”
              เจ้าคุณปัจจนึกฯ หัวเราะหึ ๆ อ่านจดหมายฉบับนั้นต่อไป
              “เป็นเวลาเดือนกว่าแล้วที่คุณป๋าไม่ได้ไปหาหนูเลย”
              สี่สหายต่างร้องขึ้นพร้อมกันอีก
              “เป็นเวลาเดือนกว่าแล้วที่คุณป๋าไม่ได้ไปหาหนูเลย”
              หลวงทรชนฯ โผเข้าแย่งเอกสารฉบับนั้นจากเจ้าคุณปัจจนึกฯ ทันที ท่านนายพลตำรวจเอกเต็มไปด้วยความกระดากอายอย่างยิ่ง
              “ขอโทษทีครับ ท่านเจ้าคุณ ผมหยิบผิดไป กระดาษสีมันเหมือนกัน”
              แล้วคุณหลวงก็ยกมือเกาศีรษะแกรก ๆ ล้วงกระเป๋าหยิบกระดาษสีฟ้าอีกแผ่นหนึ่งออกมาส่งให้เจ้าคุณปัจจนึกฯ
              “นี่ครับใต้เท้า แผ่นนี้ใช่แน่”
              เจ้าคุณกลั้นหัวเราะแทบแย่
              “คุณหลวงตรวจดูเสียก่อนไม่ดีหรือ เผื่อเป็นจดหมายของอีหนูอีกบ้านหนึ่ง”
              “แฮ่ะ แฮ่ะ ผมมีบ้านเล็ก ๆ เพียงบ้านเดียวเท่านั้น” พูดจบหลวงทรชนฯ ก็หันไปทำตาเขียวกับพวกนายตำรวจใหญ่ เสียงหัวเราะคิกคักเงียบกริบลงทันที
.......................
............

ติดตามอ่านได้ในห้องสมุดหนังสือเก่าครับเป็น pdf ตอนที่ ๘๐ แล้วครับ.
โดยคุณ : โก๋หลังวัง - [ 29 ต.ค. 2544 , 17:59:28 น. ]

ตอบ
คิกๆคักๆ ก๊ากๆๆ
โดยคุณ : คุณท้าวจอมแก่น - [ 29 ต.ค. 2544 , 18:23:40 น.]

ตอบ
โฆษณากระดาษ Double A ต้องได้ idea มาจากแก๊กนี้แหงมๆ
โดยคุณ : ไทยมุง - [ 30 ต.ค. 2544 , 1:53:36 น.]

ตอบ
มีอีกตอนคือจากตอนหลานนางนาคครับ อีตอนคุณนาฏ ผีตายทั้งกลมที่เป็นภรรยาของเภสัชกรที่ทำงานอยู่ดิเรกคลีนิคแกลุกขึ้นมาจากโลงนั่นน่ะ โอย อ่านแล้วหวิดตาย ไม่ใช่กลัวนะครับ หัวเราะจนหายใจไม่ทันน่ะ
โดยคุณ : นานทีปีหน - [ 30 ต.ค. 2544 , 11:03:22 น.]

ตอบ
อ่านสามเกลอต้องอ่านในห้องคนเดียวค่ะ ถ้าอ่านในเวปต้องหาร้าน(ไม่มีเครื่องคอม.ของตัวเอง)ที่ไม่ค่อยมีคนมาก เพราะเวลาเจี๊ยบอ่านเองพวกพี่ ๆ มองแล้วก็ถามลอย ๆ ว่า "ไม่สบายหรือเปล่าน่ะ" ก็นั่งหัวเราะคนเดียวอ่ะ
โดยคุณ : เจี๊ยบstj - [ 30 ต.ค. 2544 , 20:10:19 น.]

ตอบ
55555 โครม! ขออภัย ตกเก้าอี้ครับ
โดยคุณ : ป้อมดอนเมือง - [ 30 ต.ค. 2544 , 23:30:35 น.]

ตอบ
เฮ้ออออ .....แล้วปาย นึกว่าสิบล้อคุณป้อมบินชนตึกซะอีก อิอิอิ
โดยคุณ : born - [ 31 ต.ค. 2544 , 3:51:11 น.]

ตอบ
อิอิ ป๋ายอดดวงใจของหนู อิอิ ป๋าโก๋ขา
โดยคุณ : ละม่อม - [ 31 ต.ค. 2544 , 11:59:34 น.]

ตอบ
อ้า..ง่า...ผมป่าว
โดยคุณ : โก๋หลังวัง - [ 31 ต.ค. 2544 , 13:52:45 น.]

ตอบ
ก๊ากๆๆ แหม โชคดี วันนี้ที่ร้านมีคนน้อย
ครั้งก่อนนู้น หัวเราะยังงี้ คนเต็มเลย อายมากกกกกกค่ะ
โดยคุณ : พี่สาวแมวอ้วน - [ 2 พ.ย. 2544 , 18:06:05 น.]

ตอบ
{{{{{555555}}}}}}}
โดยคุณ : cpheil - [ 3 พ.ย. 2544 , 11:28:02 น.]

ตอบ
คิคิคิ .... หัวเราะเบาๆ กลัวคนข้าง ๆ หันมาเห็น....แต่อุ๊บ....ก๊ากกกก...55..มันกลั้นม่ายหวายง่ะ...55555 (เว่อร์ไปนิ๊ด)
โดยคุณ : หนูน้อยแก้มแดง - [ 3 พ.ย. 2544 , 13:34:44 น.]

ตอบ
ผมเป็นคนชอบอ่าน พล นิกร กิมหงวนมาก แต่เดี๋ยวนี้หาอ่านอยากมาก ใครพอที่จะรู้ที่สั่งซื้อ กรุณา mail มาบอกผมด้วย และยินดีที่จะคุยกับคนที่ชอบอ่านเรื่องนี้ทุกคน ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดยคุณ : ประพันธ์ คำอินบุตร - [ 4 พ.ย. 2544 , 18:28:13 น.]

ตอบ
โอ้โฮ ครับ คุณโก๋หลังวัง ผมต้องกลั้นหัวเราะ แทนไม่ทัน ก็อยู่ในร้านเนทอ่ะครับ ก็หายไปนาน แต่ก็เข้ามาเรื่อยๆ นะครับ ไชโยๆๆๆ วู้ปี้
โดยคุณ : จิม - [ 6 พ.ย. 2544 , 22:14:32 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.