เตือน อันตราย อย่าประมาท
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



เตือน อันตราย อย่าประมาท
เขาเคยคิดว่าภาพข่าวอาชญากรรมที่มีให้เห็นบนน.ส.พ.ทุกวันเป็นเรื่องไกลตัวเหลือ
จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่งในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันที่เปิดไฟฟ้าสว่างไสว
วิชชุ เศรษฐกนก ศิลปินฝึกหัดของบริษัท Aratist
ในเครือแกรมมี่กรุ๊ปจึงตระหนักว่า
ไม่ว่าใครก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของอาชญากรได้พอๆ กัน
"วันที่เกิดเหตุผมไปคุยเรื่องงานดนตรีกับพวกเพื่อนๆ และพี่ๆ
ที่ พรีเมียร์พระราม 9 คุยเสร็จเกือบตีสาม
ปกติก็ไม่ได้กลับดึกขนาดนั้น
แต่วันนั้นคุยกันค่อนข้างซีเรียสเลยใช้เวลานาน
คุยเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน
ผมขับรถเกือบจะถึงบ้านแล้ว ผ่านปั๊มแห่งหนึ่งก็เลยแวะเข้าไป
จริงๆ แล้วไม่ถึงกับอยากเข้าห้องน้ำขนาดทนไม่ได้
แต่อยากซื้อขนมกับไอศกรีมไปกินที่บ้านมากกว่า
ตอนนั้นไม่มีรถคนอื่นเข้ามาเติมน้ำมันเลยผมขับไปจอดหน้ามินิมาร์ทเข้าไปซื้อของ
เสร็จ คิดว่าเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยดีกว่าก่อนจะเข้าห้องน้ำก็เดินไปล็อครถก่อน
ห้องน้ำของปั๊มอยู่ข้างหลังมินิมาร์ทไม่มีใครในห้องน้ำเลย
แต่ไฟสว่างมากเพราะเป็นไฟนีออน
กำลังจะรูดซิปกางเกงก็ได้ยินเสียงตึง...เป็นเสียงคนเดินเข้ามา
พอเอี้ยวตัวไปมองก็เห็นปืนจ่ออยู่ตรงหน้า
ความรู้สึกแรกคือไม่อยากเชื่อว่าถูกปล้น
คิดว่าถูกเพื่อนแกล้งมากกว่า
เพื่อนคงจะเห็นรถจอดอยู่แล้วตามมาล้อเล่น
แต่พอได้สติก็รู้ว่านี่ของจริง... จังหวะนั้นมันเร็วมาก
พอผมเอี้ยวตัวไป เห็นคนเดินตามหลังมาอีกสองคน คนถือปืนก็ขึ้นลำปืน
แล้วพูดด้วยเสียงดุๆ ว่า...ถ้ามึงไม่อยากตายหันหลังไป
พอผมหันกลับ เขาก็ผลักผมกระเด็นไปติดกำแพงห้องน้ำ
แล้วเอาด้ามปืนตบที่ท้ายทอยซ้อนกันหลายครั้ง
ผมบอกเขาว่า....พี่อยากได้อะไร เอาไปเลย
หวังว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรร้ายแรง แต่ปรากฎว่าเขาไม่สน ทุบเอาอีก...
แล้วอีกคนก็เข้ามาจับมือผมไปไพล่หลัง
ได้ยินเสียงแกะเทปกาวดังแควกก่อนจะเอาเทปนั้นมัดมือผมไว้
พอมัดเสร็จก็จับตัวผมหันมา จากนั้นก็ต่อยที่ท้องผมอย่างแรง หมัดเดียว
แต่จุกมาก จนผมทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น
ต่อจากนั้นเขาก็จับขาผมรวบให้นั่งบนพื้น
แล้วทำท่าเหมือนจะเอาเทปมามัดที่เท้า แต่
เปลี่ยนใจเป็นมาพันที่หน้าก่อน เริ่มจากปิดตา
ปิดปากตอนปิดปากเขาปิดจมูกไปด้วย ผม
พยายามร้องว่าหายใจไม่ออก แต่เสียงมันดังออกมาแค่อือๆ เท่านั้น
โชคดีว่าพันไม่แน่นมากยังมีช่องเหลือให้หายใจได้
หลังจากนั้น มันก็เอาเทปมามัดเท้าต่อก่อนค้นตัวเอากุญแจรถไป
แล้วทุกอย่างก็เงียบ......ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาคงทิ้งผมไว้
เอาแต่รถไปอย่างเดียว รออีกเดี๋ยวค่อยๆ กลิ้งออกไปหาคนช่วยก็ได้
แต่ยังไม่ทันจะโล่งใจเลยก็รู้สึกว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้น
ตอนนั้นตกใจสุดขีดเลย ตกใจกว่าตอนเห็นปืนอีก
เพราะคิดว่าคราวนี้คงต้องถูกเอาไปยิงทิ้งแน่
ผมดิ้นสุดชีวิตเลยโดนอัดหรือเตะไม่รู้แน่เข้าอีก หลังจากนั้น
มันไม่เชิงว่ามีสติตลอด มันกึ่งรู้สึกตัวกับไม่รู้สึกตัว
เนื่องจากถูกมัดตาเอาไว้ ทำให้ไม่รู้ว่าเค้าอุ้มไปไหน
รู้สึกว่าหลังแตะอะไรสักอย่างคิดว่าน่าจะเป็นรถ
เพราะพอวางเสร็จรถก็ออกตัว ตอนนั้นนึกถึงพ่อแม่....ท่านจะอยู่อย่างไร
เพราะผมเป็นลูกคนเดียว
แล้วก็นึกถึงพระปลงว่าท่าจะไม่รอด รถวิ่งไปได้ซักพักก็หยุด
รู้สึกตัวว่าถูกยกลอยขึ้น ก่อนจะถูกโยนโครมลงไปที่หญ้า
คาดว่าคงเป็นข้าทางที่ไหนซักแห่ง กลั้นใจว่าจะโดนอะไรอีกไหม
รู้สึกว่าจะถูกเตะเข้าที่กลางลำตัวอีกสองครั้ง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถขับออกไป....."
เรื่องต่อจากนี้คือเขาคอยจนแน่ใจว่าพวกนั้นไปแล้ว
แล้วก็พยายามแกะเทปแล้วตะกายไป ผผผผผผผ
ขอความช่วยเหลือ มีคนขับรถผ่านมาช่วยเขาพาไปส่ง ร.พ.
ไปนอนไอ.ซี.ยู 1คืน
เค้าบอกว่าพ่อแม่เคยเตือนแล้วว่าการขับรถกลับบ้านดึกให้ระวังคนขับรถมาชน
อาจเป็นโจร...........
คนๆ นี้โชคดีกว่าหลายคนที่เค้ายังกลับไปหาพ่อแม่ของเค้าได้....
...........โลกนี้มันมีทั้งเรื่องที่ดีงาม แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี
มันเป็นโลกแห่งความจริง ขอให้ระวังตัว อย่าชะล่าใจ หลายๆ
คนคิดว่า....ไม่เป็นไรแค่นี้เอง แต่แค่นี้เองนั้น
มันเท่ากับเราได้เอาตัวของเราทั้งชีวิตเข้าไปเสี่ยงซะแล้ว
ถึงแม้จะไม่ห่วงตัวเอง ก็ขอให้คิดถึงคนที่บ้าน
คนที่เป็นห่วงเราด้วยละกัน.

จากผู้หวังดี



โดยคุณ : เจี๊ยบstj - [ 16 ก.ค. 2544 , 21:33:52 น. ]

ตอบ
เอิ๊ก...น่ากัวจิงๆ ข้าพเจ้าชอบกลับบ้านดึกๆด้วยดิ
นึกว่าที่ปั้มปลอดภัยแล้วนะเนี่ย
โดยคุณ : ละม่อม - [ 17 ก.ค. 2544 , 14:48:39 น.]

ตอบ
สยองภาคสี่มาแล้ว พูดไม่ออกเหมือนเดิม ระวังกันไว้ละกันครับ
โดยคุณ : การ์ตูน - [ 17 ก.ค. 2544 , 15:34:34 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.