มีเรื่องน่าคิดมาให้อ่านครับ
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



มีเรื่องน่าคิดมาให้อ่านครับ

Subject: คนเหมือนกัน,งานเหมือนกัน

> Paul และ Peter ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกัน อายุเท่ากัน
> ช่วงเวลาทำงานก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก
> พวกเขามีความขยัน ตั้งใจในการทำงาน
> แต่ว่า Peter นั้นทำงานได้ไม่นานนัก
> ก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆ จนได้เป็นถึงผู้จัดการแผนก
> แต่สำหรับ Paul แล้ว ดูเหมือนทุกคนจะลืมไปว่ามีเขาอยู่ด้วย
>
> จนวันหนึ่ง Paul ซึ่งหมดความอดทนได้เข้ามาขอลาออก
> เหตุผลก็คือ เขาได้ทำงานหนัก แต่ไม่เคยประจบประแจง
> หรือเป็นคนคุยโวโอ้อวด
> เขาจึงไม่เคยอยู่ในสายตาของผู้อำนวยการเลย
>
> เมื่อผู้อำนวยการฟัง Paul พูดจบ เขาทราบว่า Paul นั้นทำงานหนักจริง
> แต่เขาขาดคุณสมบัติไปข้อหนึ่ง ถ้าเขาพูดไปตรงๆ อาจทำให้ Paul ไม่สบายใจ
> ดังนั้น เขาจึงคิดวิธีหนึ่งได้ แล้วพูดว่า
> "Paul บางทีฉันอาจจะตาลายนะ
> เอาอย่างนี้แล้วกัน
> เธอไปที่ตลาดดูว่าที่ตลาดมีอะไรมาขายบ้าง"
>
> Paul รีบไปตลาดแล้วก็กลับมา รายงานผู้อำนวยการว่า
> "ผมพบว่ามีชาวนาชราคนหนึ่งลากรถมาขายถั่ว"
> ผู้อำนวยการถาม "รถนั้นสามารถบรรทุกถั่วได้หนักกี่กิโล"
> Paul ก็ขอกลับไปดูใหม่ สักครู่ก็กลับมารายงานว่า
> "รถนั้นบรรทุกถั่วจำนวน 40 กว่าถุง ถุงละประมาณ 20 กิโล"
> ผู้อำนวยการจึงถามอีกว่า "กิโลละเท่าไหร่"
> Paul ก็จะขอกลับไปดูใหม่ แต่ผู้อำนวยการได้เรียกให้เขาหยุด
> และให้พักผ่อนสักครู่
>
> จากนั้นเขาก็ให้คนไปเรียก Peter มาพบแล้วพูดกับเขาว่า
> "คุณ Peter คุณรีบไปตลาดนะ ดูว่าวันนี้มีอะไรมาขายบ้าง"
> ไม่นานนัก Peter ก็กลับมาแจ้งว่า
> "ที่ตลาดมีเพียงชาวนาชราคนหนึ่งนำถั่วมาขาย
> มีอยู่ประมาณ 40 กว่าถุง รวมแล้ว 800 กว่ากิโล ราคาก็ปานกลาง
> และคุณภาพก็ดีด้วย"
> จากนั้นเขาก็นำตัวอย่างถั่วบางเม็ดให้ผู้อำนวยการดู
> แล้วพูดต่อว่า
> "เย็นนี้เขาจะลากถั่วอีก 1 คันรถมาขายที่ตลาด ราคาก็ใช้ได้"
> ผมเตรียมที่จะเจอกับชาวนาชราคนนี้อีกครั้งในตอนเย็น"
>
> Paul ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เริ่มหน้าแดง
> เขาขอร้องให้ผู้อำนวยการคืนใบลาออกให้กับเขา
> ตอนนี้เขาเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างเขากับ Peter แล้ว
>
> คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ที่จริงแล้วไม่มีเทคนิคอะไร
> แต่เขาจะมีความคิดที่ไกล ก้าวหน้ากว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
> การมีความคิดที่ก้าวไกลกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ
> การที่เราก้มหน้าก้มตาทำงาน
> โดยที่เราไม่มองข้างบนหรือข้างๆเลย
> ว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว ดิดแต่จะทำ แต่ก้าวไปไม่ถึงไหน
> ถ้าเราคิดได้มากขึ้น ละเอียดขึ้น
> ไม่ใช่จะทำให้เราเสียเวลา
> แต่จะยิ่งทำให้เรามีทัศนวิสัยที่กว้างไกลยิ่งขึ้น
> สามารถเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
> และจะทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายของความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น
> ลองคิดดู ในช่วงเวลาของชีวิต คุณคิดไปถึงกี่ขั้นแล้ว.
โดยคุณ : ลุงเชย - [ 24 พ.ค. 2544 , 10:25:10 น. ]

ตอบ
เป็นเรื่องที่ทุกคนควรอ่านครับ ผมพิมพ์เก็บไว้อ่านตั้งแต่เมื่อคืนนี้แนะครับ...ง่า ลุงเชย=Visitor รึปล่าวครับ : )
โดยคุณ : โก๋หลังวัง - [ 24 พ.ค. 2544 , 11:05:09 น.]

ตอบ
ใช่ครับเพราะเห็นว่าดีก็เลยมาให้อ่านกันครับ
โดยคุณ : ลุงเชย - [ 24 พ.ค. 2544 , 11:51:33 น.]

ตอบ
ดีจังค่ะ....ทำให้คิดอะไรได้อีกเยอะเลย....ขอบคุณมากค่ะ.....(^ ^).....
โดยคุณ : แอน - [ 24 พ.ค. 2544 , 11:54:40 น.]

ตอบ
ขอบคุณค่ะ
โดยคุณ : คุณท้าวจอมแก่น - [ 24 พ.ค. 2544 , 12:35:25 น.]

ตอบ
ดีจริงๆครับ ผมขออนุญาตพิมพ์ให้ทีมงานผมอ่านหน่อยครับ นี่แหละคือปัญหาที่ผมพยายามบอกทีมงานผมแต่ไม่ดีเท่านี้ ดีจริงๆครับ ขอบคุณมากๆครับลุงเชย
โดยคุณ : linesiam - [ 24 พ.ค. 2544 , 18:00:22 น.]

ตอบ
เยี่ยมมากครับ คนแบบนี้มีทุกที่ ถ้าที่ไหนมีน้อย ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีมาก ก็ยุ่ง_รรลัย
ขอบคุณครับที่นำมาเผยแพร่
โดยคุณ : ป้อมดอนเมือง - [ 24 พ.ค. 2544 , 23:00:03 น.]

ตอบ
ดีจริง ๆบางครั้งคนเราไม่ได้ดูตนเองจะได้เป็นข้อคิดเป็นการเตือนใจตัวเองดั่งคำพระท่านว่า .....เอ่อ. อะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้ขนาดรู้ตัวแล้วแต่ไม่ค่อยจะจำ บางทีจำแล้วแต่ไม่ค่อยรู้ตัว
โดยคุณ : pui - [ 25 พ.ค. 2544 , 0:19:40 น.]

ตอบ
ฮะๆ อ่านแล้วรู้สึกว่า Paul น่าไปเป็นข้าราชการ ส่วน Peter ควรไปเป็นนักการเมือง

บางทีคนเรามันมีอะไรที่เหมาะจะทำกับตัวเองมั้งครับ Paul ไม่ได้ผิด ที่ทำตัวแบบนี้ แต่ตัวเขาอาจไม่เหมาะที่จะทำงานที่นี่เท่า Peter ถ้าคนเราเป็นแบบ Peter หมด คงยุ่งพิลึก ไม่สมดุลย์กันแน่ เพราะมีแต่หัวหน้าไม่มีลูกน้อง

อะ เดี๋ยวโดนยำ คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น ขออภัย มุมมองของผมน่ะ แหะๆ
โดยคุณ : ble3d - ICQ : 21526438 - [ 25 พ.ค. 2544 , 1:27:37 น.]

ตอบ
อ่า..เคยได้ยินได้ฟังมาเหมือนกันครับ เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับข้าราชบริพาร 2 คนที่อยู่ในเรือพระที่นั่ง แล้วถูกใช้ให้ออกไปดูเหตุการณ์ที่บนฝั่ง ง่า..ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับหมาออกลูกนะครับ ไม่มี Peter หรือ Paul ฟังแล้วเป็นคติธรรมแบบดียวกันนี่แหละครับ ป๊ะป๋าผมเค้าตั้งใจสอนให้คนเรารู้จักสังเกตและเปิดใจมองอะไรจากหลายแง่หลายมุม อย่ามองด้วยทัศนคติของตัวเองจากมุมเดียว เลยทำให้กลายเป็นคนช่างสังเกตรายละเอียดปลีกย่อยมาจนทุกวันนี้ เป็นเรื่องเล่าที่เยี่ยมมากๆเลยนะครับ เอ่อ..รู้สึกว่าจะเป็นการเปรียบเทียบวิธีการคิดแบบ"อนุมาน"กับ"อุปมาน"ใช่ไหมครับ มองจากสิ่งปลีกย่อยไปหาสิ่งใหญ่ กะอีกฝ่ายทำอย่างตรงกันข้าม..ต่างคนต่างใจครับ แต่ก็ต้องมีคนทั้งสองประภท ม่ายง้าน.ก็มีแต่เจ้าคนนายคนเต็มเมือง ฉลาดไปหมดสิครับ ลูกน้องคงจะเถียงคำไม่ตกฟากน่าดู อิอิ..ม่ายมีอะไรครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ ว่าเคยถูกสอนด้วยเรื่องประมาณนี้มาเหมือนกัน ม่ายมีอะไรโต้แย้งครับ..ชอบ
โดยคุณ : eighteen crown - [ 25 พ.ค. 2544 , 6:10:17 น.]

ตอบ
ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์ครับ
โดยคุณ : กิมเบ๊ - [ 25 พ.ค. 2544 , 6:21:21 น.]

ตอบ
ดีจัง..
นานๆได้มีสาระเข้าสมอง อิอิ
โดยคุณ : หนูดล - ICQ : 97330475 - [ 26 พ.ค. 2544 , 1:25:09 น.]

ตอบ
เคยอ่านเหมือนกันค่ะ เป็นคติที่สอนให้ตัวเรารอบคอบไว้ ทำอะไรต้องละเอียดถีถ้วน ขอบคุณลุงเชยนะคะที่เอาเรื่องดีๆที่น่าอ่านมาให้พวกเรา
โดยคุณ : เจี๊ยบstj - [ 1 มิ.ย. 2544 , 22:05:10 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.