เรื่องของป้าคนหนึ่งซึ่งมีสามีหล่อ(แบบแก่ๆ) และรวยมาก..แต่..???
Home Page
samgler connection members information discuss library misc. web board contact us

กระดานสนทนาสามเกลอ (Read Only)



เรื่องของป้าคนหนึ่งซึ่งมีสามีหล่อ(แบบแก่ๆ) และรวยมาก..แต่..???
เสียงกระเซ้าเย้าแหย่ระหว่างชายวัย 60 กว่า 2 คน ดังลั่นอู่ซ่อมรถ.."นี่หนูรู้มั๊ย..ไอ้แก่นี่มันหายขึ้นดอยทำมายบ่อยๆ (แกพูดเสียงอ้อแอ้ตามประสาคนยังอยู่ในช่วงได้ที่)
ทุกคนได้แต่ทำหน้ามึนงง ..ไม่รู้ว่าแกจะมาไม้ไหน..เพราะเจอไปไม้สารพัดพิษจากฝีมือแกมาหลายครั้ง
"ปายหาอีหนูแม้วอ่ะสิ" แกพูดเสียงลิ้นไก่สั้น แกพูดจาสนิทสนมกลมเกลียวประหนึ่งเป็นพวกเดียวกัน "อ้ายโผมก้อว่าจาม่ายล่าวหรอก..ถ้าม่ายโสงสารพวกคุณๆ ที่ต้องมานั่งรอน่ะ (พูดไป..สีที่แกพ่นลงบนกระโปรงรถคันหนึ่งก็เริ่มไหลเยิ้มเป็นทาง)
แกสำทับ "มันนะ..ชอบหาเรื่องทามเปนว่าโรถโตกเขาน่ะคูณ..ทั้งเชียงใหม่มีมานโคนเดียวปายกู้ด้าย..ที่แท้ก้อทิ้งเมียแก่ให้รออยู่ที่บ้าน..ปายหาอีหนูคราวลูก"
"อ้ายห่ะนี่..เมาแล้วชอบปากหมาน" ชายแก่อีกคนโต้ตอบ
ตัดภาพมาอีกสถานที่หนึ่ง..บ้านพักหลังย่อมใจกลางเมืองเชียงใหม่..กองอะไหล่รถวางระเกะระกะ
"หนูรอลุงเค้านึดนึงนะ..ไม่รู้ว่าเค้าไปไหน..ป้าก็ไม่ค่อยอยากถามเท่าไหร่..แกชอบโมโหหาว่าป้าชอบจับผิด..เรามันก็อายุปูนนี้แล้วใช่มั๊ยล่ะ" "..ป้าก็เหนื่อย..จริงอย่างที่ลุงว่า ..แก่จนปูนนี้..ใครมันจะไปนอกลู่นอกทางอีก ..นี่ก็มีแม่ของลุงแกกำลังจะมา..ลูกหลานก็ตั้งหลายคนนะ..แต่ละคนเป็นเศรษฐีใหญ่ที่กรุงเทพฯ ทั้งนั้น..จริงๆ ป้าก็ไม่ค่อยไหวเท่าไหร่ ไอ้เรามันปวดเนื้อปวดตัวตลอดเวลา คนแก่ก็อย่างนี้ ไอ้ครั้นจะทำเฉยก็สงสารแก ลูกหลานออกเยอะ ต้องนอนจมกองขี้กองเยี่ยวให้ลูกหลานเค้าด่า..นี่ขนาดพี่ชายลุงเค้าเป็นนายพลนะ..ไอ้เราอยู่คนเดียวลูกหลานไกลตา ก็เลยเอาแกมาอยู่ด้วยดีกว่า..อย่างน้อยถ้าแกเป็นอะไรไป..เราก็ยังไม่เสียใจที่ไม่ได้ทอดทิ้ง"
ตัดภาพมาอีกหลายๆวันให้หลัง ตอนที่พวกเราไปถึง ป้ากำลังร้องไห้ "ป้าเป็นอะไรจ๊ะ?..ง่า..พวกหนูมาหาลุงน่ะ" แกไม่สนใจจะตอบคำถาม แกพร่ำว่า"หนูรู้มั๊ย ป้าเพิ่งไปหาลูกสาวมา อุตส่าห์อดทนปวดเมื่อยนั่งเรือบินไปหาคนเดียว เพราะลุงแกบอกว่าไม่ว่าง มีรถตกเขาหลายคัน ไปถึงสนามบิน หนาวก็หนาว ภาษาก็ไม่รู้จัก ลูกสาวที่มันอยู่ที่นั่นบอกว่าจะมารับ เราก็รอทั้งหนาวๆ พูดอะไรก็ไม่เป็น..3 ชั่วโมงยังไม่มา ป้าก็เลยเอาหน้าซองจดหมายให้รถรับจ้างหน้าสนามบินมันดู" เอ่อ.."แล้วป้าไปถึงหรือเปล่า"..เราถามด้วยความห่วงใยปนมึนงง..เราแค่แวะมาขออะไหล่เพิ่มเติมที่ลุงแกยังให้ไม่ครบน่ะ!!
"อู้ย..ไปถึงสิลูก ไอ้รถมันดีใจหาย แถมมันยังพูดอะไรก็ไม่รู้ที่ป้าฟังไม่รู้เรื่อง..โบกไม้โบกมือส่ายหัวทำหน้าเสียใจ แล้วมันก็ลงไปกดกริ่งให้" ป้าหยุดเล่าเพราะเสียงสะอื้นจนเกินกว่าจะพูดต่อไปได้ "แล้วลูกสาวป้าเค้าจำวันผิดเหรอจ๊ะ" (อุตส่าห์ตั้งคำถามชนิดให้ดูเบาบางที่สุด) "ก็ไม่ใช่น่ะสิ(เสียงสะอื้นเป็นทวีคูณเหมือนเสียใจมาอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งได้ระบายวันนี้) ..ลูกสาวป้ามันเดินออกมาเปิดประตู..แล้วก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตอนรู้ว่าป้ายังไม่ได้จ่ายตังค์รถนั่น มันทิ้งป้ายืนอยู่หน้าประตู หนาวก็หนาว แล้วหายเข้าไปในบ้านหยิบเงินมาส่งให้รถนั่นกำหนึ่ง..ฮือๆๆๆ" เอ่อ..ป้ากินน้ำหน่อยมั๊ย ทำใจให้สบายนะ มันอาจจะมีอะไรผิดพลาดก็ได้ (เราพูดไปทั้งที่ก็มั่นใจว่ามีอะไรผิด..แต่ไม่พลาดเกิดขึ้นแน่ๆ) "คืออย่างนี้น่ะ..พอมันยอมให้ป้าเดินเข้าไปในบ้าน ป้าเลยเห็นไอ้ฝรั่งผมทองคนนึงมันนั่งอยู่ หน้าตายู่ยี่เหมือนเพิ่งตื่น แล้วบ่นอะไรไม่รู้ฟังคล้ายมันพูดว่ารักป้าน่ะ" "เอ่อ..เค้าพูดอะไรเหรอป้า"..ความอยากรู้อยากเห็นบวกความสงสัยทวีคูณ..ไหนๆ ก็ไหนๆ) "ก็มันพูดอะไรอั๊กๆ ไม่รู้ ยังสงสัยว่ามันอู้้คำเมืองได้ยังไง" "แล้วฝรั่งเพื่อนลูกฉันก็เดินกลับเข้าไปข้างใน ฉันนึกว่าลูกฉันมันลืมไปรับ..แต่มันกลับบอกว่า..แม่..แม่มาทำอะไร..ก็xx บอกแล้วว่าไม่ต้องมาน่ะ พักนี้ยุ่งจะตาย แทบไม่มีเวลากินเวลานอน แล้วแม่จะอยู่ถึงเมื่อไหร่ล่ะ หนูจะได้จัดตารางสอนถูก นี่พ่อก็รู้เรื่องแล้วนะ ทำไมแม่ยังดื้อมาอีกล่ะเนี่ย? ที่นี่ก็หนาวจะตาย แม่จะอยู่ยังไง"(เออหนอ..ยังดีที่ "มัน" ยังรู้จักสงสัยว่าอากาศอย่างนี้แม่..(ซึ่งแก่แล้ว) จะอยู่ยังไง?) ป้าสะอื้นเล่าต่อ..น้ำตาหญิงชราหน้าตาป่วยอาบแก้ม "ในที่สุด ฉันก็ต้องกลับมาทั้งๆ ที่ไปอยู่ได้แค่สามวัน" "ก็ดีนะป้า..ได้ไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง" เรากลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างลำบากยากเย็น "มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ มันกับเพื่อนผมทองทำอะไรกินกันก็ไม่เคยให้ฉันกิน พอฉันสงสัยถามเข้า เพราะแค่อยากรู้ว่ากินอะไรกันไม่เคยเห็น ฉันมันกินอะไรไม่ได้อยู่แล้วน่ะ ท้องไส้ไม่ดี มันก็รีบบอกว่าของไม่ดีกินไม่ได้ แม่กินไม่เป็นหรอก แล้วซักพักมันก็เอาไปเททิ้ง เสร็จแล้วมันก็มาเรียกให้ฉันไปล้างจาน บอกว่ามาถึงนี่ก็ทำตัวเป็นประโยชน์ช่วยมันหน่อย"................... เรามารู้ที่หลังว่าคุณป้าคนนั้นเป็นโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร..อาการเกือบขั้นสุดท้าย แกไม่ยอมไปรับการรักษาที่กรุงเทพฯ หรือเมืองนอก ..ก็เพราะห่วงจะประหยัดเงินให้ลูกแกเล่าเรียนและเป็นค่าใช้จ่าย ทั้งๆ ที่สามีแกหารายได้จากการเซ็งลี้รถเก่าประมูลได้เกือบวันละ 6 หมื่นบาทโดยที่ป้าแกไม่เคยรู้มาก่อน..ครั้งล่าสุดที่เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนแกเมื่อไปเชียงใหม่ ..แกดูซูบผอมและตรอมใจแบบหญิงชราที่โดดเดี่ยวในบั้นปลายชีวิตอย่างเห็นได้ชัด ..ลุงยังคงหายออกไปกู้รถตกเหว..ส่วนป้าก็นั่งน้ำตาซึมรำพึงถึงความคับข้องหมองใจในชีวิตให้คนแปลกหน้าฟัง........................
จบแล้วครับ
คือผมอ่านจากกระทู้ที่ 776 ของคุณ Trinity แล้วฉับพลันก็มีเรื่องคุณป้าคนนี้มาจ่อที่คอหอยจนกลืนน้ำลายไม่ลงน่ะ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เกิดขึ้นกับคนที่เรารักรอบตัวเราเลย..สาธุ
โดยคุณ : eighteen crown - [ 15 พ.ค. 2544 , 5:25:15 น. ]

ตอบ
เอ่อ.....ไม่รู้จะเขียนอะไรค่ะอ่านแล้วอึ้ง
โดยคุณ : ละม่อม - [ 15 พ.ค. 2544 , 20:23:38 น.]

ตอบ
คนจีนถือว่า "ความกตัญญูต่อบุพการี" เป็นคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเลวจะชั่วในทางอื่นยังไง ถ้ายังมีความกตัญญูรู้คุณ ก็ยังนับว่าเป็นคน
อย่าได้แปลกใจ ถ้าลูกสาวของป้าคนนี้ภายหลังมีลูก แล้วถูกลูกตนเองทอดทิ้งเมื่อยามแก่ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ....
โดยคุณ : Trinity - [ 16 พ.ค. 2544 , 1:01:13 น.]

ตอบ
ป.ล. ผมเลยต้องกลับไปอ่านกระทู้ 776 อีกรอบนึงเลย
โดยคุณ : Trinity - [ 16 พ.ค. 2544 , 1:16:30 น.]

ตอบ
นี่นา..ดิช้านเจ๊แหลมฮ่า..ทามงานด้อยความโกดดานของสิ่งที่ช่าย ม่ายถือสาฮะ
โดยคุณ : เจ๊แหลม - [ 23 พ.ค. 2544 , 3:35:43 น.]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
ข้อความ




กรุณาคลิกที่ปุ่ม Post message เพียงครั้งเดียว 



All contents in this web site are intended for private use and educational purpose only. Our main objectives are to promote SamGler to cyberspace surfers and to memorize Por Intalapalit, one of the greatest writers in Thai fiction history.